aifedean Ammous นักเศรษฐศาสตร์และผู้เขียนหนังสือ The Bitcoin Standard ได้ออกมาแสดงจุดยืนในประเด็นร้อนเรื่อง “สแปม” บนเครือข่าย Bitcoin โดยเขาระบุว่า พร้อมลงเงินสนับสนุน ให้จ้างนักพัฒนาเต็มเวลามาทำงานเพื่อให้การ “สแปม Bitcoin” ทำได้ยากและมีต้นทุนสูงขึ้น
Ammous แสดงความเห็นในโพสต์ตอบกลับของนักพัฒนานามแฝง GrassFedBitcoin ที่เรียกร้องให้ทีม Bitcoin Core พิจารณารวมโค้ดจาก pull request #28408 ซึ่งจะเปิดให้ node operators (ผู้ดูแลโหนด) สามารถตั้งค่าคัดกรอง Inscriptions ได้ง่ายขึ้น
“ใครใช้ Bitcoin เก็บ JPEG กำลังทำลายเครือข่าย”
GrassFedBitcoin อ้างว่า การขาดเครื่องมือกรอง Inscriptions ส่งผลให้เกิดการใช้พื้นที่บล็อกอย่างไม่จำเป็น (Blockchain bloat) และทำให้บทบาทของ Bitcoin ในฐานะ “โปรโตคอลทางการเงิน” ถูกลดความสำคัญลง
เขายังตั้งคำถามว่า:
“ไม่มีใครรันโหนดเพื่อส่งต่อภาพ JPEG หรอก”
พร้อมแนะให้ Bitcoin Core ตั้งนโยบายป้องกันการใช้งานแบบนี้เป็นค่าเริ่มต้น เพื่อจำกัดการใช้ Bitcoin เป็นที่เก็บข้อมูลแทนการส่งเงิน
Let's talk about filtering inscriptions.
— Mechanic #FixTheFilters #300kb (@GrassFedBitcoin) May 17, 2025
Because if it's possible – the main rationale for blowing out the OP RETURN limit to such an absurd degree no longer exists.
It is achievable.
28408 needs to be reopened and merged into Core.
No one running a node wants to relay… pic.twitter.com/6ItdhVapCh
Adam Back สวนกลับ “นี่คือสงครามทางเทคนิค”
Adam Back ซีอีโอของ Blockstream แสดงความคิดเห็นว่า การพยายามกรองสแปมด้วยโค้ดถือเป็น “สงคราม” แบบหนึ่ง เพราะผู้สร้างข้อมูลขยะสามารถปรับเทคนิคใหม่ ๆ ได้ตลอดเวลา ทำให้เครื่องมือตรวจจับต้องอัปเดตอย่างไม่รู้จบ
Saifedean เปรียบเทียบกับ “อีเมลขยะ”
Ammous เห็นต่าง และเปรียบเทียบว่า “สแปมบน Bitcoin” ก็เหมือนกับ “สแปมอีเมล” ที่แม้จะกำจัดไม่ได้ 100% แต่เราก็ไม่ละทิ้งระบบอีเมล เพราะยังมีคุณค่าโดยรวมมหาศาล
เขากล่าวว่า:
“มันไม่ง่ายหรอก แต่ก็คุ้มค่าที่จะพยายาม…เพื่อล้มผู้ส่งสแปมให้ไวขึ้น” พร้อมย้ำว่า การกรองธุรกรรมไม่ใช่ “การเซ็นเซอร์” เพราะโหนดอยู่แล้วก็มีสิทธิ์ปฏิเสธธุรกรรมที่ไม่ถูกต้อง
ในบทสนทนานี้ Ammous ยังเสนอแรง ๆ ว่า ควรลดบทบาทนักพัฒนาที่สร้างเครื่องมือสแปม และถึงขั้น จ้างนักเขียนโค้ดจากภายนอกเพื่อโจมตีกลับ ให้ระบบของฝั่งสแปมล่ม
รายงานจาก Mempool Research เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ เผยว่า การใช้ Bitcoin ในการทำ Inscriptions (ฝังข้อมูลลงธุรกรรม) อาจทำให้ขนาดเฉลี่ยของแต่ละบล็อกพุ่งสูงถึง 4 MB ต่อบล็อก ซึ่งเกินกว่าค่าเฉลี่ยปัจจุบันที่อยู่ราว 1.5 MB
“Bitcoin ควรเป็นเพียงโปรโตคอลทางการเงิน หรือควรเปิดให้ใช้งานได้อิสระมากกว่านั้น?”
อ้างอิง : cointelegraph.com
ภาพ knowledge.wharton.upenn.edu