แม้จีนแผ่นดินใหญ่จะยังคง ห้ามการเทรดและขุดคริปโตอย่างเข้มงวดตั้งแต่ปี 2021 แต่ล่าสุดบริษัทที่มีฐานในจีนอย่าง DDC Enterprise (หรือ DayDayCook) ได้ประกาศแผนถือครอง Bitcoin เป็นสินทรัพย์สำรอง (Bitcoin Reserve Strategy)
CEO ของ DDC คือ Norma Chu เปิดเผยในจดหมายถึงผู้ถือหุ้นเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2025 ว่า บริษัทได้ซื้อ 100 BTC มูลค่าราว $10.4 ล้านดอลลาร์ และตั้งเป้าสะสมให้ได้ถึง 5,000 BTC ภายใน 36 เดือน โดยคาดว่าจะถือ 500 BTC ภายในสิ้นปี 2025
รายงานผลประกอบการโตต่อเนื่อง – พร้อมเปลี่ยนกลยุทธ์การเงิน
DDC เป็นแบรนด์สินค้าอุปโภคบริโภคในสหรัฐฯ ที่มีรากฐานจากฮ่องกงและดำเนินธุรกิจบางส่วนในจีนแผ่นดินใหญ่
- บริษัทประกาศรายได้ปี 2024 โตขึ้น 33% อยู่ที่ 273.3 ล้านหยวนจีน (ประมาณ $37.4 ล้านดอลลาร์)
- Chu ระบุว่า DDC ต้องการเป็นผู้นำใน นวัตกรรมสินทรัพย์ดิจิทัล และเลือก Bitcoin เป็นหัวใจหลักของกลยุทธ์นี้
อย่างไรก็ตาม รายงานประจำปี (Form 20-F) ที่ยื่นต่อ SEC ของสหรัฐฯ ยัง ไม่มีการระบุอย่างชัดเจนเกี่ยวกับการถือครอง Bitcoin หรือกลยุทธ์สะสม BTC ที่เพิ่งประกาศ
DDC Announces Strategy to Create Bitcoin Reserves – starting with 100 BTC with premium-priced DDC shares 👏🏼👏🏼👏🏼
— Norma @ DDC (@ddcnorma) May 13, 2025
✅ 100 BTC to start
We are ready! https://t.co/ghznYbhcv4
สัญญาณบางอย่างในรายงาน SEC บ่งชี้การเปลี่ยนทิศทาง
แม้ไม่มีการพูดถึง Bitcoin โดยตรง แต่ในรายงานของ SEC มีเนื้อหาที่สื่อถึงความตั้งใจของบริษัทในการ:
- กระจายแหล่งรายได้ และควบคุมต้นทุน
- หาทุนเพิ่มเติมในอนาคต เพื่อรองรับแผนธุรกิจ
- อ้างถึงแนวทางบัญชีใหม่ที่เกี่ยวกับคริปโตของ FASB (คณะกรรมการมาตรฐานบัญชีการเงินของสหรัฐฯ) ที่เริ่มใช้ปลายปี 2023
ท่าทีจีนต่อคริปโตยังไม่เปลี่ยน – แต่บริษัทในประเทศเริ่มขยับ
แม้จีนจะยัง ไม่ยกเลิกคำสั่งแบนคริปโต ที่ประกาศไว้ตั้งแต่ปี 2021 แต่หลายฝ่ายเริ่มตั้งข้อสังเกตว่า:
- ฮ่องกงมีท่าทีเป็นมิตรกับคริปโตมากขึ้น
- รัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้ประธานาธิบดี Donald Trump กำลังสนับสนุน Bitcoin และคริปโต
- จึงมีความเป็นไปได้ว่า จีนแผ่นดินใหญ่เองอาจเริ่ม “ผ่อนปรน” แบบเงียบ ๆ ผ่านบริษัทในประเทศ
อย่างไรก็ตาม บางนักวิเคราะห์ก็ยังไม่เชื่อว่าจีนจะแบนคริปโตแบบถาวร โดยชี้ว่าจีนยังมีบทบาทใหญ่ในการขุด Bitcoin อยู่ แม้จะมีคำสั่งแบนโดยตรง
การที่ DDC ออกมาประกาศถือ Bitcoin อย่างเป็นทางการ อาจสะท้อนถึง “การเปลี่ยนผ่านเชิงสัญลักษณ์” ของบริษัทจีนที่เริ่มปรับตัวเข้าหาสินทรัพย์ดิจิทัล แม้ยังต้องหลีกเลี่ยงการพูดตรง ๆ ในเอกสารทางการ
นี่อาจเป็นสัญญาณเริ่มต้นว่า โลกกำลังบีบให้จีนต้องยอมรับ Bitcoin ในบางรูปแบบ — แม้จะยังไม่เปิดไฟเขียวแบบเป็นทางการก็ตาม
อ้างอิง : cointelegraph.com