บริษัทวิเคราะห์บล็อกเชนด้านการปฏิบัติตามกฎหมาย AMLBot เปิดเผยรายงานเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม ว่ามีความล่าช้าในการดำเนินการบล็อกวอลเล็ตของ Tether (USDT) บนเครือข่าย Ethereum และ Tron ซึ่งทำให้มีเงินผิดกฎหมายไหลออกไปได้มากกว่า 78.1 ล้านดอลลาร์ ก่อนที่คำสั่งแช่แข็งจะมีผลจริง
ความล่าช้านี้เกิดจากระบบ multisignature (multisig) ที่ Tether ใช้ในการควบคุมกระบวนการบล็อกวอลเล็ต โดยขั้นตอนจะต้องมีการทำธุรกรรม 2 ครั้งบนเครือข่าย:
- ครั้งแรก: เป็น “การแจ้งเตือนล่วงหน้า” ว่าจะมีการบล็อกวอลเล็ต
- ครั้งที่สอง: เป็นการยืนยันให้การบล็อกมีผลอย่างเป็นทางการ
ในช่วงเวลาระหว่างสองธุรกรรมนี้ ซึ่งอาจใช้เวลาหลายนาทีจนถึงเกือบชั่วโมง กลายเป็น “หน้าต่างโอกาส” ที่แฮกเกอร์หรือผู้เกี่ยวข้องกับกิจกรรมผิดกฎหมายสามารถย้ายเงินหนีได้ทัน
ยกตัวอย่างกรณีจริง – หน่วงเวลา 44 นาที = เสียหายหลายล้าน
รายงานยกตัวอย่างธุรกรรมหนึ่งที่ดำเนินการบน Tron โดยมีการแจ้งเตือนบล็อกวอลเล็ตครั้งแรกในเวลา 11:10:12 UTC และคำสั่งมีผลจริงใน 11:54:51 UTC — ล่าช้านาน 44 นาที
ในช่วงเวลานั้น เจ้าของวอลเล็ตสามารถตรวจสอบได้แบบเรียลไทม์ว่า “กำลังจะโดนแช่แข็ง” และใช้โอกาสนี้โอน USDT ออกไปทันที
- เฉพาะบน Ethereum มีการย้ายเงินหนีระหว่างขั้นตอนนี้มากกว่า 28.5 ล้านดอลลาร์
- บน Tron มีการย้ายเงินเพิ่มอีก 49.6 ล้านดอลลาร์
- รวมทั้งสิ้นกว่า 78.1 ล้านดอลลาร์ ถูกย้ายหนีจากการแช่แข็งสำเร็จ
AMLBot ระบุว่าในกรณีของ Tron มีวอลเล็ตมากถึง 170 จาก 3,480 วอลเล็ต (ประมาณ 4.88%) ที่ใช้ช่องโหว่นี้ในการย้ายเงิน และแต่ละวอลเล็ตมีการโอนออกเฉลี่ยราว 291,970 ดอลลาร์
Tether ตอบโต้: นี่ไม่ใช่ช่องโหว่ แต่เป็น “ระบบที่รับผิดชอบ”
Tether ออกแถลงการณ์ตอบโต้รายงานดังกล่าว โดยระบุว่าระบบ multisig ที่ใช้มีจุดประสงค์เพื่อป้องกันการสั่งแช่แข็งโดยพลการ ซึ่งถือเป็นการรักษาความปลอดภัยของระบบที่มีมูลค่ากว่า $100,000 ล้านดอลลาร์
“แม้ความล่าช้าใด ๆ สมควรถูกตรวจสอบ แต่การกล่าวว่าเป็นช่องโหว่เชิงระบบนั้น ‘ทำให้เข้าใจผิด’ และขาดมุมมองที่เหมาะสม”
Tether ยังย้ำว่า พวกเขาทำงานร่วมกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายกว่า 255 หน่วยงานจาก 55 ประเทศ และได้บล็อก USDT ที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมรวมแล้วกว่า 2.7 พันล้านดอลลาร์
บริษัทยังให้คำมั่นว่าอยู่ระหว่าง ปรับปรุงระบบการบล็อกวอลเล็ต ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และลดช่วงเวลาในการบังคับใช้เพื่อไม่ให้ผู้ไม่หวังดีใช้ประโยชน์จากดีเลย์นี้ได้อีก
อ้างอิง : cointelegraph.com
ภาพ theblock.co