Dan Tapeiro ซีอีโอของ 10T Holdings บริษัท VC ที่เน้นลงทุนในคริปโตโดยเฉพาะ ออกมาเตือนในเวที Consensus 2025 ที่โตรอนโตว่า สตาร์ทอัปคริปโตจำนวนมากกำลังตั้งมูลค่าบริษัทสูงเกินรายได้จริง ทำให้ไม่สามารถระดมทุนจากนักลงทุนสถาบันได้
“ไม่รู้ทำไม ผู้ก่อตั้งและซีอีโอหลายคนถึงคิดว่าควรระดมทุนโดยตั้งมูลค่าบริษัทไว้สูงถึง 50–80 เท่าของรายได้ ซึ่งนั่นทำให้เราสร้างผลตอบแทนให้กับผู้ให้ทุนของเราได้ยากมาก”” — Tapeiro กล่าว
10T Holdings ปฏิเสธดีลไปกว่า 200 โปรเจกต์ เพราะมูลค่าไม่สมเหตุสมผล
แม้จะชื่นชอบไอเดียหรือทีม แต่ Tapeiro ยืนยันว่า ถ้ามูลค่าบริษัทตั้งมาไม่เป็นธรรมกับรายได้จริง ทีมของเขาจะปัดดีลทันที
- โปรเจกต์ที่ถูกปฏิเสธรวมถึง FTX, BlockFi และ Celsius ซึ่งภายหลังก็ล้มละลาย
- 10T มองหาบริษัทที่มีมูลค่ารวมอยู่ในช่วง $400–$500 ล้าน และมีอัตราส่วนมูลค่าต่อรายได้ (valuation-to-revenue) ไม่เกิน 10 เท่า
“Valuation ที่สมจริงสำคัญมาก เพราะมันช่วยให้การระดมทุนรอบถัดไปง่ายขึ้น และการ exit ก็ทำได้ชัดเจนขึ้น”
VC รายอื่นชี้ ต้องกระจายความเสี่ยงระหว่าง Token และ Equity
Dan Morehead ซีอีโอของ Pantera Capital ซึ่งร่วมพูดในงานเดียวกัน มองว่า นักลงทุนควรรับทั้งหุ้น (private equity) และโทเคน (tokens) เมื่อเข้าไปลงทุนในสตาร์ทอัปคริปโต
“ตลาดชอบเหวี่ยง บางช่วงโทเคนแพง หุ้นถูก บางช่วงกลับกัน เราควรกระจายพอร์ตเพื่อรับโอกาสทั้งสองด้าน”
Pantera เป็นหนึ่งใน VC ที่ประสบความสำเร็จสูง โดย:
- ได้ผลตอบแทนจาก 86% ของสตาร์ทอัปที่ลงทุน
- มีถึง 22 บริษัทที่กลายเป็นยูนิคอร์น (มูลค่าเกิน $1 พันล้าน)
แม้ VC อย่าง 10T จะระมัดระวังเรื่องมูลค่าบริษัทมากขึ้น แต่ PitchBook รายงานว่าในไตรมาสแรกของปี 2025 เงินทุน VC ที่ไหลเข้าสู่คริปโตยังเพิ่มขึ้นกว่า 100% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า โดยแม้จำนวนดีลจะเพิ่มเพียง 8.8% แต่มูลค่าเฉลี่ยต่อดีลสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
ในยุคที่เม็ดเงิน VC เริ่มกลับมาไหลเข้าอุตสาหกรรมคริปโต การตั้งมูลค่าบริษัทให้สมเหตุสมผลกับรายได้จริงจึงเป็นสิ่งจำเป็น Tapeiro จาก 10T Holdings ย้ำว่า “แม้คุณจะมีโปรเจกต์ดี แต่ถ้า valuation เว่อร์เกินไป นักลงทุนสถาบันก็ไม่แตะ” ขณะที่ Pantera แนะนำให้ VC กระจายการลงทุนระหว่างโทเคนและหุ้น เพื่อรับความผันผวนของตลาดให้คุ้มค่าที่สุด
อ้างอิง : cointelegraph.com
ภาพ insights.hsf.com
