เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคมที่ผ่านมา Tether’s USDt หรือที่เรารู้จักกันดีในชื่อ USDT ทำสถิติมูลค่าตลาดรวม (market cap) แตะระดับ $150 พันล้านดอลลาร์ เป็นครั้งแรก สะท้อนถึงการเติบโตอย่างต่อเนื่องของตลาด Stablecoin ท่ามกลางกระแสการใช้งานที่เพิ่มสูงขึ้นทั่วโลก
- ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา ปริมาณ USDT ที่หมุนเวียนเพิ่มขึ้นกว่า 36%
- การเติบโตยิ่งเร่งตัวขึ้นนับตั้งแต่ Donald Trump ชนะการเลือกตั้ง ในเดือนพฤศจิกายน
จากข้อมูลของ CoinMarketCap ปัจจุบัน USDT ครองส่วนแบ่งกว่า 61% ของตลาด Stablecoin ทั่วโลก ตามมาด้วย USDC ของ Circle ที่มีส่วนแบ่งราว 25%
ทำไม Tether ถึงสำคัญ?
USDT ถือเป็น “หัวใจ” ของการเทรดคริปโต เนื่องจาก:
- ให้สภาพคล่องสูงในการซื้อขายคริปโต
- ใช้เป็นตัวกลางในการแลกเปลี่ยนระหว่างเหรียญต่าง ๆ
- เป็นเสมือนตัวชี้วัด “อุณหภูมิ” ของตลาดคริปโต ว่ากำลังมีความต้องการมากหรือน้อย
นอกจากนี้ ข้อมูลจาก Dune และ Artemis ยังพบว่า:
- จำนวนกระเป๋าเงิน Stablecoin ทั่วโลกเพิ่มขึ้นกว่า 50% ภายใน 1 ปี
- จาก 19.6 ล้านใบ → เพิ่มเป็น 30 ล้านใบ
Tether เตรียมรุกตลาดสหรัฐฯ ด้วย Stablecoin เวอร์ชันใหม่
แม้ Tether จะเป็นผู้นำระดับโลก แต่การใช้งาน USDT ยัง ถูกจำกัดภายในสหรัฐฯ เนื่องจากข้อกฎหมาย แต่ตอนนี้ Tether กำลังวางแผน:
- ออก Stablecoin เวอร์ชันใหม่ ที่รองรับตลาดภายในสหรัฐโดยเฉพาะ
- อ้างอิงกับดอลลาร์เช่นเดิม แต่จะ “แตกต่าง” จากเวอร์ชัน Global
Paolo Ardoino ซีอีโอของ Tether กล่าวระหว่างงาน Token2049 ที่ดูไบ ว่า “Stablecoin สำหรับสหรัฐจะมีโครงสร้างเฉพาะตัว และแยกจาก USDT ปัจจุบัน”
ความเคลื่อนไหวทางกฎหมายในสหรัฐฯ
Tether ยังเดินหน้าล็อบบี้ (Lobby) เชิงรุกในวอชิงตัน ขณะที่รัฐสภาสหรัฐกำลังพิจารณาร่างกฎหมายหลายฉบับเกี่ยวกับ Stablecoin เช่น:
- STABLE Act ที่เสนอโดยประธานคณะกรรมการบริการการเงินแห่งสภาผู้แทนฯ
อย่างไรก็ตาม ร่างกฎหมายดังกล่าวได้รับเสียงวิจารณ์ไม่น้อย โดย:
- อดีตประธาน CFTC, Timothy Massad ชี้ว่า STABLE Act อาจไม่ช่วยควบคุม Tether ได้จริง เพราะ:
- ให้อำนาจรัฐแต่ละแห่งมากเกินไป
- ขาดกระบวนการตรวจสอบอย่างต่อเนื่องจากระดับรัฐบาลกลาง
Tether กำลังเติบโตในระดับโลกอย่างรวดเร็ว และมีแผนกลับเข้าสหรัฐฯ อย่างจริงจัง ในขณะที่หน่วยงานกำกับดูแลเริ่มเข้ามาวางกรอบกฎหมายมากขึ้น ปีนี้จึงเป็นปีสำคัญสำหรับการเปลี่ยนผ่านของ Stablecoin สู่การเป็น “เงินดิจิทัลภาคประชาชน” ที่ทั้งเติบโตและถูกจับตามองมากขึ้นเรื่อย ๆ
อ้างอิง : cointelegraph.com
ภาพ cryptodnes.bg
