ราคา Bitcoin (BTC) ทำจุดสูงสุดระหว่างวันไว้ที่ $105,800 ก่อนจะย่อตัวลงกว่า 3% เหลือ $101,400 ระหว่างการซื้อขายในตลาดนิวยอร์ก ซึ่งเป็นการเคลื่อนไหวที่ชัดเจนว่า BTC หลุดจาก “ascending channel” หรือกรอบขาขึ้นในกราฟระยะสั้น โดยนักวิเคราะห์บางรายมองว่านี่อาจเป็นสัญญาณของแรงขายที่เริ่มเข้ามา
แพลตฟอร์มวิเคราะห์ข้อมูล Alphractal รายงานว่า Bitcoin กำลังเข้าใกล้โซนราคาที่เรียกว่า “Alpha Price” ซึ่งเป็นโซนที่นักลงทุนระยะยาวหรือวาฬมีแนวโน้มจะขายทำกำไร โดยเฉพาะเมื่อราคาเข้าใกล้ระดับ $106,000 ที่ถือเป็นแนวต้านสำคัญ

ในมุมของตลาดอนุพันธ์ ตอนนี้มีสถานะ Long มูลค่ารวมกว่า $3.4 พันล้านดอลลาร์ที่เสี่ยงถูกล้างพอร์ต (liquidate) หากราคาบิตคอยน์หลุดระดับ $100,000 ซึ่งจุดนี้อาจกลายเป็น “แม่เหล็กดึงราคา” ให้ร่วงมาทดสอบแนวรับทางจิตวิทยาอีกครั้ง
CPI สหรัฐ: ปัจจัยตัดสินทิศทาง BTC รอบใหม่
นักเทรดเริ่มลดความเสี่ยง (de-risk) ก่อนการประกาศตัวเลข CPI ของสหรัฐในวันที่ 13 พฤษภาคมนี้ โดย CPI เดือนเมษายนคาดว่าจะอยู่ที่ 2.4% เช่นเดียวกับเดือนมีนาคม ซึ่งลดลงจาก 2.8% ในเดือนกุมภาพันธ์
- หากตัวเลข CPI ต่ำกว่าคาด (เป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน) อาจส่งผลบวกต่อราคา Bitcoin เพราะแปลว่าเฟดอาจมีแนวโน้มลดดอกเบี้ยในปี 2025
- แต่ถ้า CPI สูงกว่าคาด อาจสร้างแรงกดดันด้านเงินเฟ้อ ทำให้ดอลลาร์แข็งค่า และเป็นลบต่อสินทรัพย์เสี่ยง รวมถึงคริปโต

แนวรับที่ควรจับตา
หากราคา Bitcoin ยังไม่สามารถกลับมายืนเหนือ $102,000 ได้หลังตัวเลข CPI:
- โซนแนวรับสำคัญแรกอยู่ที่ $100,500 – $99,700 ซึ่งเป็นช่องว่างราคาที่เกิดขึ้นในกราฟ 4 ชั่วโมง (Fair Value Gap)
- แนวรับถัดไปอยู่ที่ $98,680 – $97,363 ซึ่งหมายถึงการย่อตัวจากจุดสูงสุดล่าสุดราว 8%
อ้างอิง : cointelegraph.com
ภาพ banklesstimes.com