ทำเนียบขาวเผย “เจรจาสหรัฐ–จีนคืบหน้า” แต่ยังไร้ดีลชัดเจน นักลงทุนยังไม่มั่นใจ

เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม ทำเนียบขาวออกแถลงการณ์ว่า การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีน “มีความคืบหน้าอย่างมาก” แต่ยังไม่มีการประกาศข้อตกลงอย่างเป็นทางการ ทำให้นักลงทุนทั่วโลกยังคงตั้งคำถามถึงความชัดเจนของสถานการณ์

รัฐมนตรีคลังของสหรัฐฯ Scott Bessent ระบุว่า “เรามีความคืบหน้าอย่างมีนัยสำคัญในการเจรจาการค้ากับจีน ซึ่งถือเป็นประเด็นสำคัญมาก” พร้อมเสริมว่า “รายละเอียดเพิ่มเติมจะเปิดเผยในวันที่ 12 พฤษภาคม”

อย่างไรก็ตาม ตลอดคำแถลง Bessent ไม่ได้เอ่ยคำว่า “ข้อตกลง” (deal) เลยแม้แต่ครั้งเดียว ส่วน Jamieson Greer ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ ก็กล่าวถึงดีลอย่างคลุมเครือ โดยไม่มีข้อมูลเนื้อหาของการเจรจาเพิ่มเติม ส่งผลให้นักลงทุนยังคงสงสัยว่า “ข้อตกลง” ที่ว่าคืออะไร และจะส่งผลต่อเศรษฐกิจจริงหรือไม่

ตลาดยังไม่ฟื้นเต็มที่ แม้จะเริ่มรีบาวด์หลังโดน “ภาษีทรัมป์” โจมตี

แม้ตลาดการเงิน ทั้งแบบดั้งเดิมและสินทรัพย์ดิจิทัลจะเริ่มฟื้นตัวจากแรงเทขายในช่วงแรกหลังจาก ประธานาธิบดีทรัมป์ประกาศภาษีการค้าแบบกวาดล้าง (sweeping trade tariffs) แต่นักลงทุนก็ยังรู้สึกไม่มั่นคง

รัฐบาลทรัมป์มีประวัติ “กลับลำ” ด้านนโยบายภาษีหลายครั้ง ส่งผลให้ตลาดเกิดความไม่แน่นอน เช่น บางครั้งก็ อ่อนโทน, บางครั้งก็ ขึ้นภาษีแบบไม่ทันตั้งตัว ทำให้สินทรัพย์ที่มีความเสี่ยง เช่น หุ้นเทคโนโลยีและคริปโต ตกอยู่ในภาวะลังเล

ตัวอย่างเช่น ในเดือนเมษายน 2024 หน่วยงานศุลกากรสหรัฐฯ ได้ประกาศ ยกเว้นภาษี สำหรับสินค้าเทคโนโลยีบางรายการ เช่น สมาร์ตโฟน ชิปคอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่น ๆ ตามคำสั่งของรัฐบาล

แต่เพียงหนึ่งวันหลังจากนั้น Howard Lutnick รัฐมนตรีพาณิชย์ของสหรัฐฯ ก็ออกมาถอนการยกเว้นภาษีเหล่านั้นทันที โดยกล่าวว่าเป็นแค่ “มาตรการชั่วคราว” ก่อนที่จะมี “นโยบายภาษีถาวร” ที่จะกำหนดอัตราภาษีแยกตามอุตสาหกรรมต่าง ๆ

ขาดความแน่นอน = เสี่ยงต่อเศรษฐกิจและตลาดโลก

นักวิเคราะห์จำนวนมากมองว่า “ความไม่ชัดเจน” และ “นโยบายสลับไปมา” ของรัฐบาลทรัมป์จะยิ่งสร้างความปั่นป่วนให้กับตลาดการเงิน และอาจฉุดเศรษฐกิจโลกให้ชะลอตัวมากขึ้นในระยะยาว

สรุป:

• การเจรจาสหรัฐ–จีนมี “ความคืบหน้า” แต่ยังไม่มีข้อตกลงชัดเจน
• นักลงทุนยังไม่เชื่อมั่น เพราะขาดรายละเอียดที่เป็นรูปธรรม
• ภาษีทรัมป์ยังคงเป็นปัจจัยเสี่ยง และมีการเปลี่ยนแปลงนโยบายกะทันหันหลายครั้ง
• ตลาดยังอยู่ในภาวะลุ้นต่อ ทั้งฝั่งหุ้น เทคโนโลยี และคริปโต

อ้างอิง : cointelegraph.com
ภาพ reuters.com