บริษัทการเงินยักษ์ใหญ่ของ Wall Street อย่าง BlackRock ได้พบกับทีม Crypto Task Force ของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐฯ (SEC) เพื่อหารือเรื่องสำคัญ 2 ประเด็นในวงการคริปโต ได้แก่ การนำ staking มาใช้ในผลิตภัณฑ์ ETF และการ tokenize หลักทรัพย์ ภายใต้กฎเกณฑ์ของรัฐบาลกลาง
การพบปะครั้งนี้มีขึ้นเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม และมีการเผยแพร่บันทึกการหารืออย่างเป็นทางการผ่านเว็บไซต์ของ SEC
ประเด็นร้อน: ETF + Staking = อนาคตใหม่ของตลาดทุนคริปโต?
BlackRock แสดงความสนใจอย่างจริงจังในเรื่อง การเพิ่มฟีเจอร์ staking ให้กับ ETPs (exchange-traded products) ซึ่งเป็นรูปแบบหนึ่งของ ETF โดยเฉพาะในผลิตภัณฑ์ที่อิงกับ Ethereum (ETH)
ที่ผ่านมา BlackRock เคยระบุว่า “Ether ETF ยังไม่สมบูรณ์ หากไม่มีฟีเจอร์ staking” เนื่องจาก Ethereum เป็นบล็อกเชนแบบ proof-of-stake ที่เปิดให้ผู้ถือ ETH สามารถนำไปล็อกเพื่อรับผลตอบแทนได้
Grayscale ซึ่งเป็นอีกหนึ่งผู้ให้บริการ ETF รายใหญ่ก็เห็นด้วย โดยในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (NYSE) ได้เสนอการเปลี่ยนแปลงกฎเพื่อเพิ่มฟีเจอร์ staking ให้กับ Ether ETF ของ Grayscale แต่ทาง SEC ได้เลื่อนการตัดสินใจออกไปในเดือนเมษายน
หาก SEC ให้ไฟเขียวกับฟีเจอร์นี้ใน Ether ETF ก็มีแนวโน้มสูงที่ altcoin ตัวอื่น ๆ อย่าง Solana (SOL) อาจได้โอกาสตามมาด้วยในอนาคต
โทเคนหลักทรัพย์ (Tokenized Securities) กำลังมา?
อีกหัวข้อที่ถูกพูดถึงในการประชุมคือ การนำหลักทรัพย์แบบดั้งเดิม เช่น หุ้นและพันธบัตร มาโทเคนบนบล็อกเชน ซึ่งจะอยู่ภายใต้กรอบกฎหมายของหลักทรัพย์สหรัฐฯ
การ tokenization มีข้อดีหลายด้าน เช่น:
- ลดต้นทุนระบบโบรคเกอร์แบบดั้งเดิม
- ทำธุรกรรมได้เร็วขึ้น
- เปิดให้เทรดได้ 24 ชั่วโมงแบบไร้พรมแดน
BlackRock เองก็มีผลิตภัณฑ์ในด้านนี้อยู่แล้วคือกองทุน BUIDL ซึ่งเป็นโทเคนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ที่มีมูลค่ากว่า 2.9 พันล้านดอลลาร์ นับเป็นกองทุน tokenized ใหญ่ที่สุดในโลกตอนนี้ โดยมีคู่แข่งหลักคือกองทุน BENJI ของ Franklin Templeton
ไม่ใช่แค่ BlackRock เท่านั้นที่มองเห็นโอกาส — บริษัท Robinhood ก็อยู่ระหว่างการพัฒนา บล็อกเชนของตัวเองสำหรับการโทเคนหุ้นในยุโรป เพื่อเปิดให้ผู้ใช้งานรายย่อยสามารถซื้อขายหุ้นสหรัฐฯ ได้ในรูปแบบใหม่
โลกการเงินดั้งเดิมกำลังถูกพลิกโฉม
การที่ BlackRock เข้าหารือกับ SEC ถือเป็นสัญญาณชัดเจนว่า โลกการเงินดั้งเดิม (TradFi) กำลังจริงจังกับการเข้าสู่ Web3 มากขึ้น ทั้งในแง่ของการ staking ใน ETF และการ tokenization ของสินทรัพย์ดั้งเดิม
หากแนวคิดเหล่านี้ได้รับการอนุมัติจากภาครัฐ ก็อาจเป็นก้าวสำคัญในการเชื่อมต่อระหว่างตลาดทุนแบบเดิมกับโลกคริปโตอย่างเต็มรูปแบบในอนาคตอันใกล้
อ้างอิง : cointelegraph.com
ภาพ cryptoslate.com
