Meta บริษัทแม่ของ Facebook กำลังพิจารณานำระบบชำระเงินด้วย Stablecoin กลับมาใช้งานอีกครั้ง หลังจากเว้นระยะห่างจากวงการคริปโตไปนานกว่า 3 ปี โดยรายงานจาก Fortune ระบุว่า Meta ได้หารือกับบริษัทโครงสร้างพื้นฐานคริปโตหลายราย แม้ยังไม่มีการตัดสินใจแน่ชัด
หนึ่งในแหล่งข่าวเผยว่า Meta อาจใช้กลยุทธ์แบบ “multi-token” ซึ่งรองรับ Stablecoin หลายสกุล เช่น Tether (USDT), USD Coin (USDC) และเหรียญอื่น ๆ ที่ได้รับความนิยมในตลาด
การเคลื่อนไหวของ Meta ถือเป็นสัญญาณล่าสุดที่แสดงให้เห็นว่า บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่เริ่มหันมาสนใจและผนวก Stablecoin เข้าไว้ในระบบของตนมากขึ้น ขณะที่มูลค่าตลาดของ Stablecoin ทะลุเกิน $230 พันล้านดอลลาร์ ท่ามกลางความสนใจจากนักลงทุนสถาบันทั่วโลก

Visa – Stripe นำทีมเปิดเส้นทางใหม่สู่การชำระเงินด้วย Stablecoin
ไม่ใช่แค่ Meta เท่านั้นที่หันมาสนใจ Stablecoin — ยักษ์ใหญ่สายการเงินอย่าง Visa และ Stripe ก็ขยับตามมาในเดือนพฤษภาคมนี้
เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคมที่ผ่านมา Visa ประกาศลงทุนในบริษัทสตาร์ทอัพด้าน Stablecoin ชื่อ BVNK แม้จะไม่มีรายละเอียดเชิงลึก แต่ Rubail Birwadker หัวหน้าฝ่ายผลิตภัณฑ์ของ Visa ระบุว่า Stablecoin กำลังแย่งชิงส่วนแบ่งตลาดการชำระเงินมากขึ้นเรื่อย ๆ
ในวันเดียวกัน Stripe ก็เปิดให้บริการบัญชี Stablecoin สำหรับลูกค้ากว่า 100 ประเทศทั่วโลก โดยผู้ใช้งานสามารถเก็บเหรียญ Stablecoin โอนให้ผู้อื่น และถอนเป็นเงินเฟียตเข้าสู่บัญชีธนาคารแบบดั้งเดิมได้โดยตรง
Stablecoin กลายเป็นเครื่องมือยุทธศาสตร์ของสหรัฐฯ – พร้อมแรงหนุนจากฝั่งการเมือง
กระแส Stablecoin ไม่ได้หยุดอยู่แค่ภาคเอกชน เพราะฝั่งการเมืองก็เริ่มขยับตัวเช่นกัน โดย World Liberty Financial (WLFI) บริษัทคริปโตที่ได้รับการสนับสนุนจากอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้เปิดตัว USD1 ซึ่งเป็น Stablecoin ที่ผูกค่าไว้กับเงินดอลลาร์สหรัฐ เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
ภายในเวลาเพียง 2 เดือน USD1 ก็ก้าวขึ้นมาเป็น Stablecoin ที่มีมูลค่าตลาดใหญ่เป็นอันดับ 7 ของโลก แสดงให้เห็นถึงความเติบโตอย่างรวดเร็วของตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลที่อิงกับเงินเฟียต
ฝ่ายบริหารของทรัมป์ยังมองว่า Stablecoin เป็น “กุญแจสำคัญ” ในการเสริมอำนาจของเงินดอลลาร์สหรัฐในเวทีโลก โดยใช้เป็นช่องทางในการกระจายสินทรัพย์อย่างพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ให้เข้าถึงนักลงทุนทั่วโลกผ่านระบบดิจิทัล
แต่เส้นทางกฎหมายนั้นยังไม่ราบรื่น
แม้ฝั่งรัฐบาลจะผลักดัน แต่กฎหมายกำกับดูแล Stablecoin ก็ยังไม่สามารถผ่านวุฒิสภาได้ โดยเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคมที่ผ่านมา สมาชิกพรรคเดโมแครตได้คัดค้านร่างกฎหมายชื่อ “GENIUS Act” ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อวางกรอบการใช้ Stablecoin อย่างเป็นทางการในสหรัฐฯ
รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ Scott Bessent โพสต์ข้อความบน X (Twitter) ระบุว่า “สภาสูญเสียโอกาสครั้งสำคัญในการเป็นผู้นำ” และเรียกร่างกฎหมาย GENIUS ว่าเป็นโอกาสเพียงหนึ่งครั้งในรุ่นของเรา ที่จะขยายบทบาทของเงินดอลลาร์ให้ครองโลกต่อไปในยุคดิจิทัล
อ้างอิง : cointelegraph.com
ภาพ theblock.co