หาก BTC ทะลุ $105,000! อาจจุดชนวน “Short Covering” ดันราคาทำจุดสูงสุดใหม่

Bitcoin ทะยานขึ้นแตะระดับ $104,000 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบกว่า 3 เดือน โดยเพิ่มขึ้นถึง 4.6% ภายในวันเดียว การพุ่งขึ้นครั้งนี้สร้างแรงสั่นสะเทือนในตลาดฟิวเจอร์ส ทำให้มีการล้างพอร์ตของฝั่งขาลงกว่า $205 ล้าน และยังส่งผลให้เกือบทุก Put Option (สิทธิขาย) เสียมูลค่า

ปัจจุบัน มีมูลค่า Open Interest ของ Put Option รวมกันกว่า $8.3 พันล้านเหรียญ แต่ถึง 97% ของสัญญาเหล่านั้นวางอยู่ต่ำกว่าราคา $101,000 ซึ่งหากราคายังอยู่เหนือระดับนี้ สัญญาเหล่านั้นก็จะหมดอายุโดยไร้ค่าในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า

Bitcoin put (sell) options open interest เดือนพฤษภาคม-มิถุนายน-กรกฎาคม ที่มา: Laevitas.ch

แต่ใช่ว่านักเทรดทุกคนที่ถือ Put Option จะขาดทุน เพราะบางคนอาจขาย Put Option ตั้งแต่แรก เพื่อเก็งกำไรจากราคาที่พุ่งขึ้น กลยุทธ์ยอดนิยมอย่างหนึ่งใน Deribit (ตลาดออปชั่นคริปโต) คือ “Bull Put Spread” ซึ่งเป็นการขาย Put ที่ราคาหนึ่ง พร้อมกับซื้อ Put ที่ต่ำกว่า เพื่อจำกัดความเสี่ยงขาลง

นักลงทุนที่ใช้กลยุทธ์นี้มองว่าราคา BTC น่าจะสูงขึ้น เช่น อาจขาย Put ที่ $100,000 และซื้อ Put ที่ $95,000 เพื่อเก็งกำไรแบบจำกัดความเสี่ยง

BTC option strategies ที่ Deribit ในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา ที่มา: Laevitas.ch

บรรยากาศในตลาดยังสะท้อนถึงความมั่นใจของนักเทรด ด้วยกลยุทธ์แนวรุกอย่าง “Bull Call Spread” และ “Bull Diagonal Spread” ที่คาดว่าราคา BTC จะยังคงสูงกว่าราคาที่เปิดสัญญาไว้เมื่อถึงวันหมดอายุ

ถ้า Bitcoin สามารถยืนเหนือ $100,000 ได้ต่อเนื่อง กลยุทธ์ขาขึ้นเหล่านี้ก็จะเริ่มเห็นกำไรชัดเจนในช่วงหมดอายุของสัญญาเดือนพฤษภาคมและมิถุนายน ส่งผลให้เทรดเดอร์มีแรงจูงใจที่จะดันราคาให้สูงขึ้นต่อ

อย่างไรก็ตาม ยังมีแรงต้านจากฝั่ง Short (ผู้ขายล่วงหน้า) ในตลาดฟิวเจอร์สที่มี Open Interest รวมสูงถึง $69 พันล้านเหรียญ ซึ่งอาจพยายามกดราคาลงเพื่อป้องกันการขาดทุน

กำไร/ขาดทุนจากการขายแบบ Bull Put Spread ที่มา: Strike-Money

แต่หากราคาทะลุ $105,000 ได้ ก็มีโอกาสสูงที่ผู้เล่นฝั่ง Short จะต้อง “ปิดสถานะ” หรือ Short Covering เพื่อหยุดขาดทุน ซึ่งอาจยิ่งดันให้ราคาพุ่งแรงขึ้นอีก และมีลุ้นสร้างจุดสูงสุดใหม่เหนือ $109,354 ในอนาคตอันใกล้

ทั้งนี้ ยังมีผู้เล่นบางส่วนที่ใช้กลยุทธ์แบบ “Carry Trade” โดยซื้อ BTC แบบสปอตหรือผ่าน ETF พร้อมกับขายฟิวเจอร์สในปริมาณเท่ากัน เพื่อทำกำไรจากส่วนต่างราคา กลยุทธ์นี้เป็นแบบ Delta Neutral ซึ่งไม่หวังพึ่งการขึ้นหรือลงของราคา แต่หวังกำไรจาก Premium ในฟิวเจอร์ส

แต่ช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา Premium ของฟิวเจอร์สต่ำกว่า 8% ทำให้แรงจูงใจในการใช้ Carry Trade ลดลง ดังนั้นหากราคาทะลุ $105,000 จริง ก็มีโอกาสเห็นแรง Short Covering เกิดขึ้นบางส่วน และอาจเป็นตัวเร่งให้ BTC สร้างนิวไฮได้ในเร็ว ๆ นี้

อ้างอิง : cointelegraph.com
ภาพ vritimes.com

Share on facebook
Share on twitter
Share on linkedin

Radius

ผู้เชี่ยวชาญการเขียนข่าว บทความ ที่เกี่ยวข้องกับ Bitcoin , คริปโตเคอเรนซี่ และ Blockchain ทั้งในไทยและต่างประเทศ อัพเดทราคา มุมมองการลงทุน ใหม่ล่าสุดทุกวัน
ข่าวต่อไป

FOLLOW ME

Blockchain Life 2024

Crypto Coffee

Cryptomind Research Talk

CryptOmakase

ข่าวต่อไป