Changpeng Zhao หรือ CZ ผู้ร่วมก่อตั้ง Binance กล่าวในการสัมภาษณ์กับ Rug Radio เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม ว่า เขาคาดว่าในรอบตลาดขาขึ้นนี้ (market cycle) ราคา Bitcoin อาจพุ่งได้ถึง $500,000 ไปจนถึง $1,000,000 โดยมีปัจจัยสำคัญมาจากการเข้ามาของ กองทุน ETF และ เงินจากสถาบันการเงินขนาดใหญ่
ทำไม CZ ถึงเชื่อว่า Bitcoin จะไปไกลขนาดนั้น?
CZ ให้เหตุผลว่า ตอนนี้ตลาดเริ่มถูกขับเคลื่อนโดย “สถาบัน” มากกว่านักลงทุนรายย่อย เช่น:
- การเปิดตัวของ Bitcoin Spot ETF ทำให้เงินจากกองทุนแบบดั้งเดิมเริ่มไหลเข้ามาในตลาดคริปโต
- สหรัฐฯ มีสัดส่วนเงินลงทุนจากสถาบันสูงมาก และตอนนี้ “เงินเหล่านั้น” กำลังเข้าซื้อ Bitcoin ผ่าน ETF อย่างต่อเนื่อง
“Bitcoin ขึ้นเพราะ ETF ส่วนใหญ่เน้นไปที่ Bitcoin และนั่นแหละคือเงินจากฝั่งสถาบัน”
ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า 70% ของเงินใหม่มาจาก “สถาบัน”
Alex Obchakevich จาก Obchakevich Research ให้ข้อมูลกับ Cointelegraph ว่า
70% ของการเติบโตของ Bitcoin รอบนี้มาจากเงินใหม่ของสถาบัน อีก 30% เป็นแค่การสลับเงินภายในวงการคริปโตเท่านั้น โดยเขามองว่า ETF เป็นปัจจัยผลักดันราคาหลัก แต่จะมีแรงขายระยะสั้นให้เห็นบ้างเป็นเรื่องปกติ
รัฐบาลหลายประเทศก็เริ่มซื้อ Bitcoin แล้ว
CZ ยังระบุอีกว่า นอกจากกองทุนแล้ว ตอนนี้มีหลายรัฐบาลทั่วโลกที่เริ่มเข้าซื้อ Bitcoin ซึ่งเป็น “สัญญาณที่ดีมากต่อราคา” และถือเป็นการยืนยันว่า Bitcoin กำลังกลายเป็นสินทรัพย์ระดับโลกจริง ๆ
ตัวอย่างเช่น:
- เอลซัลวาดอร์ ยังคงซื้อ Bitcoin ต่อเนื่อง แม้จะถูก IMF เตือน โดยในช่วงปลายเมษายน ทางประเทศได้ซื้อเพิ่มอีก 7 BTC คิดเป็นมูลค่าราว 650,000 ดอลลาร์
- เอลซัลวาดอร์ ขณะนี้ถือครอง Bitcoin อยู่ราว 6,170 BTC หรือประมาณ 580 ล้านดอลลาร์
- ภูฏาน ก็มีรายงานว่ากำลังตั้งกองทุนสะสมคริปโตเพื่อใช้ในเขตเศรษฐกิจใหม่ โดยจะเน้นที่ Bitcoin และ Ethereum
CZ ยังกล่าวด้วยว่า สหรัฐฯ ตอนนี้เปลี่ยนท่าทีจากการต่อต้าน กลายเป็น “ยอมรับคริปโต” มากขึ้นหลังได้ประธานาธิบดีที่สนับสนุนวงการ ซึ่งเขาหมายถึง Donald Trump
“พวกเขารู้แล้วว่าการซื้อ Bitcoin คือการตัดสินใจที่ฉลาด และเมื่อประเทศใหญ่เริ่มซื้อ ประเทศอื่นก็ต้องตามให้ทัน”
สุดท้าย CZ ทิ้งท้ายถึงนักลงทุนรายย่อยว่า พวกเขามีเวลา “15 ปีแล้ว” ที่จะเข้าซื้อ Bitcoin ถ้าพลาดตอนนี้ก็เป็นเพราะ “เลือกเองแล้ว”
อ้างอิง : cointelegraph.com