Tether เตรียมเปิดตัว Stablecoin ใหม่ในสหรัฐฯ เจาะกลุ่มลูกค้าสถาบันโดยเฉพาะ

Paolo Ardoino ซีอีโอของ Tether ให้สัมภาษณ์กับ The Block ว่า บริษัทกำลังพิจารณาเปิดตัว Stablecoin ตัวใหม่ที่อิงสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ โดยมุ่งเป้าไปที่ลูกค้าสถาบันโดยเฉพาะ การเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นในช่วงที่ฝ่ายนิติบัญญัติของสหรัฐฯ กำลังผลักดันร่างกฎหมายเพื่อวางกรอบกำกับดูแล Stablecoin ให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น

“กฎหมายใหม่ที่กำลังจะออกมาเปิดโอกาสให้เราพิจารณาการสร้าง Stablecoin สัญชาติอเมริกัน ระดับสถาบัน” Ardoino กล่าวกับ The Block

“ต่างจาก Stablecoin ที่เราออกมาเพื่อรองรับตลาดเกิดใหม่และการเข้าถึงทางการเงิน เช่นในแอฟริกา ตัวนี้จะออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ของสถาบันขนาดใหญ่ที่มีโครงสร้างพื้นฐานต่างกันโดยสิ้นเชิง”

ตามข้อมูลจากเว็บไซต์ของ Tether ปัจจุบันบริษัทไม่ได้ให้บริการแก่ลูกค้าในสหรัฐฯ

ปัจจุบัน สหรัฐฯ กำลังเดินหน้าอย่างรวดเร็วสู่การสร้างกรอบกำกับดูแล Stablecoin โดยมีร่างกฎหมายสำคัญสองฉบับคือ

  • STABLE Act (Stablecoin Transparency and Accountability for a Better Ledger Economy)
  • GENIUS Act (Guiding and Establishing National Innovation for U.S. Stablecoins)

ร่างทั้งสองกำลังอยู่ในกระบวนการพิจารณาของสภาคองเกรส โดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้เรียกร้องให้ผ่านกฎหมายนี้ภายในเดือนสิงหาคม ซึ่งสภาและวุฒิสภาจะต้องรวมร่างให้เป็นฉบับเดียวก่อนเสนอให้ประธานาธิบดีลงนาม

“เราคือผู้บุกเบิกอุตสาหกรรม Stablecoin ตั้งแต่ปี 2014 และเป็นเรื่องที่สำคัญมากที่วันนี้ผลงานของเราถูกยอมรับจากฝ่ายนิติบัญญัติในประเทศมหาอำนาจของโลก” Ardoino กล่าว

“นี่คือก้าวใหญ่สู่การกำกับดูแลที่รอบคอบ”

แผน Stablecoin ใหม่

Stablecoin ที่มีอยู่ในปัจจุบันของ Tether เช่น USDT ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในวงการเทรดคริปโต รวมถึงในประเทศที่ค่าเงินท้องถิ่นมีความผันผวนสูง ซึ่งคริปโตถูกใช้เสมือนเป็น “ดอลลาร์ดิจิทัล” เพื่อการออมและการใช้งานในชีวิตประจำวัน

Stablecoin ตัวใหม่ที่กำลังพิจารณานี้ จะเน้นตอบโจทย์ “การชำระเงินระหว่างธนาคารอย่างรวดเร็ว” สำหรับลูกค้าระดับสถาบัน

ปัจจุบัน USDT ยังคงเป็น Stablecoin ที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีอุปทานรวมอยู่ที่ประมาณ 145 พันล้านโทเคน ตามข้อมูลจากแดชบอร์ดของ The Block

อย่างไรก็ตาม Tether ยังคงเผชิญกับแรงกดดันเรื่องความโปร่งใส โดยยังไม่ได้เปิดเผยการตรวจสอบบัญชี (Audit) แบบเต็มรูปแบบจากบริษัทอิสระ แต่เลือกใช้การรับรองงบดุลรายไตรมาส (Attestation) ที่ลงนามโดยบริษัท BDO Italia แทน

เมื่อเดือนที่แล้ว บริษัทได้แต่งตั้ง Simon McWilliams เป็นประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน (CFO) คนใหม่ เพื่อผลักดันแผนตรวจสอบบัญชีให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น Ardoino ระบุว่า การได้ Audit จากหนึ่งใน “Big Four” อย่าง Deloitte, EY, PwC หรือ KPMG ถือเป็น “ภารกิจสำคัญอันดับต้น ๆ” และกำลังอยู่ระหว่างการหารือ

คู่แข่งสำคัญอย่าง Circle ซึ่งเป็นผู้ออก Stablecoin ชื่อดังอย่าง USDC ได้ผ่านการตรวจสอบจาก Deloitte มาตั้งแต่ปี 2022 และก่อนหน้านั้น ใช้บริการจาก Grant Thornton ตั้งแต่ปี 2015

อ้างอิง : theblock.co

Share on facebook
Share on twitter
Share on linkedin

Radius

ผู้เชี่ยวชาญการเขียนข่าว บทความ ที่เกี่ยวข้องกับ Bitcoin , คริปโตเคอเรนซี่ และ Blockchain ทั้งในไทยและต่างประเทศ อัพเดทราคา มุมมองการลงทุน ใหม่ล่าสุดทุกวัน
ข่าวต่อไป

FOLLOW ME

Blockchain Life 2024

Crypto Coffee

Cryptomind Research Talk

CryptOmakase

ข่าวต่อไป