นับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งในเดือนมกราคม 2025 อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้แสดงให้เห็นถึงจุดยืนที่ชัดเจนขึ้นในการสนับสนุนคริปโต นโยบายสำคัญ เช่น การตั้งคลังสำรอง Bitcoin แห่งชาติ (Strategic Bitcoin Reserve), การลดการบังคับใช้กฎหมายที่เข้มงวดของ SEC, และ การจัดประชุมคริปโตครั้งแรกของทำเนียบขาว ต่างเป็นสัญญาณของท่าทีที่เป็นมิตรกว่ารัฐบาลก่อนหน้า
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนและกองทุนร่วมลงทุน (VC) หลายรายมองว่ายังมีอีกหลายอย่างที่ต้องทำเพื่อให้คริปโตเติบโตในสหรัฐฯ อย่างแท้จริง
คลังสำรอง Bitcoin แห่งชาติ ถือเหรียญจากคดีอาชญากรรม แต่ยังไม่มีแผนเข้าซื้อเพิ่ม
คลังสำรอง Bitcoin แห่งชาติ จะเก็บ Bitcoin ที่ยึดได้จากคดีอาชญากรรมหรือการริบทรัพย์สินทางแพ่ง ปัจจุบัน รัฐบาลสหรัฐฯ ยังไม่มีแผนเข้าซื้อ Bitcoin เพิ่ม แต่เจ้าหน้าที่ได้รับมอบหมายให้ศึกษาวิธีการเข้าซื้อแบบ “Budget-neutral” หรือการซื้อที่ไม่เพิ่มภาระงบประมาณของประชาชน
VC ส่วนใหญ่มองว่าการตั้งคลังสำรอง Bitcoin ถือเป็นก้าวสำคัญของนโยบายภาครัฐ
“ปีที่แล้วถ้ามีคนบอกผมว่าสหรัฐฯ จะมีคลังสำรอง Bitcoin ผมคงไม่เชื่อ” — Anil Lulla ผู้ร่วมก่อตั้ง Delphi Ventures
Michael Anderson ผู้ร่วมก่อตั้ง Framework Ventures มองว่าการมี “คลังสำรองคริปโตแห่งชาติ” ถือเป็นก้าวที่สำคัญ แม้ว่าตอนนี้อาจยังเป็นเพียง สัญลักษณ์ แต่ก็มีความหมายมาก
“สหรัฐฯ มี Bitcoin สะสมอยู่กว่า 200,000 BTC แล้ว ไม่สำคัญว่ารัฐบาลได้มาอย่างไร ที่สำคัญคือประเทศอื่นๆ จะต้องเริ่มกดดันให้สะสมคริปโตเช่นกัน แม้ว่าพวกเขาอาจยังไม่เชื่อมั่นในสินทรัพย์นี้ก็ตาม” — Michael Anderson, Framework Ventures
อย่างไรก็ตาม ปฏิกิริยาของตลาดต่อข่าวนี้กลับเป็นเพียง กระแสสั้นๆ สะท้อนให้เห็นว่าปัจจัยมหภาค (Macro Factors) เช่น อัตราดอกเบี้ย, ภาษีนำเข้า และเงินเฟ้อ ยังคงเป็นตัวขับเคลื่อนหลักของราคา Bitcoin
“Bitcoin ยังคงเทรดในฐานะสินทรัพย์เสี่ยงที่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจโลก” — Rob Hadick, Dragonfly
การประชุมคริปโตครั้งแรกของทำเนียบขาวถูกจับตามองอย่างมาก แต่ ส่วนที่ออกอากาศให้ประชาชนรับชมยังไม่มีเนื้อหาสาระมากนัก แม้บางคนเชื่อว่าอาจมีการหารือเชิงลึกเบื้องหลัง แต่ก็ยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจน
“ผมคิดว่าเป็นแค่การแสดงเชิงสัญลักษณ์มากกว่า” — Anil Lulla
อย่างไรก็ตาม จุดหนึ่งที่น่าสนใจคือ การพูดคุยเกี่ยวกับ Stablecoins ในฐานะ เครื่องมือช่วยรักษาความเป็นมหาอำนาจของดอลลาร์สหรัฐ ทรัมป์ระบุในที่ประชุมว่าเขาหวังให้สภาคองเกรส ส่งร่างกฎหมาย Stablecoin ให้เขาลงนามก่อนช่วงพักสภาเดือนสิงหาคม
VC รอดูท่าทีด้านกฎระเบียบ กฎหมาย Stablecoin และโครงสร้างตลาดอาจเป็นจุดเปลี่ยน
สิ่งที่นักลงทุนและกองทุน VC ต้องการเห็นมากที่สุดคือ “ความชัดเจนทางกฎหมาย” โดยเฉพาะใน 2 ประเด็นหลัก:
- กฎหมาย Stablecoin
- กฎหมายโครงสร้างตลาดคริปโต
“สำหรับคนในวงการและผู้มีอำนาจตัดสินใจ หากสองกฎหมายนี้ผ่านเมื่อไหร่ มันจะเป็นสัญญาณว่า ‘เกมเริ่มแล้ว’ สำหรับอุตสาหกรรมคริปโต” — Michael Anderson, Framework Ventures
Lulla ยังเสริมว่า “หากมีกฎระเบียบที่ชัดเจน โปรเจกต์คริปโตในสหรัฐฯ จะได้ใช้เวลาสร้างนวัตกรรม มากกว่ามากังวลว่าจะโดนฟ้องหรือถูกจับ”
ด้วยท่าทีที่เป็นมิตรมากขึ้นต่อคริปโต VC หลายรายเริ่ม ย้ายโฟกัสกลับมายังตลาดสหรัฐฯ เช่น Andreessen Horowitz ที่ปิดสำนักงานในสหราชอาณาจักร และหันมาให้ความสำคัญกับตลาดอเมริกาอีกครั้ง
“เราสามารถลงทุนในผู้ประกอบการคริปโตสหรัฐฯ ได้อย่างมั่นใจขึ้น โดยไม่ต้องกังวลกับความไม่แน่นอนทางกฎหมาย” — Rob Hadick, Dragonfly
Hadick เสริมว่าสิ่งนี้เป็นผลดีอย่างยิ่งสำหรับ DeFi และ Stablecoins ซึ่งก่อนหน้านี้เคยเป็นเป้าหมายหลักของหน่วยงานกำกับดูแล
อ้างอิง : theblock.co
ภาพ bitcoinist.com