เอลซัลวาดอร์ยังคงสะสม Bitcoin อย่างต่อเนื่อง แม้ว่ากองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) จะกดดันให้ภาครัฐหยุดซื้อสินทรัพย์ดิจิทัลที่เป็นแหล่งเก็บมูลค่าแบบกระจายศูนย์นี้
ตามรายงานจากสำนักงาน Bitcoin ของเอลซัลวาดอร์ ปัจจุบันประเทศถือครอง Bitcoin ทั้งหมดมากกว่า 6,105 BTC ซึ่งมีมูลค่ามากกว่า 527 ล้านดอลลาร์ ตามราคาตลาด ณ ปัจจุบัน
โดยปกติ เอลซัลวาดอร์จะซื้อ Bitcoin วันละ 1 เหรียญอย่างสม่ำเสมอ อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 3 มีนาคม ประเทศได้ซื้อ Bitcoin เพิ่มขึ้นเป็น 5 เหรียญในวันเดียว

ข้อตกลงกับ IMF และข้อกำหนดเกี่ยวกับ Bitcoin
เอลซัลวาดอร์บรรลุข้อตกลงกับ IMF ในเดือนธันวาคม 2024 เพื่อรับเงินกู้จำนวน 1.4 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลง รัฐบาลเอลซัลวาดอร์ตกลงที่จะ ยกเลิกสถานะ Bitcoin เป็นเงินที่ชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย และลดบทบาทของภาครัฐในการถือครอง Bitcoin ลง
ในเดือนมกราคม 2025 สภาคองเกรสของเอลซัลวาดอร์ได้แก้ไขกฎหมายเกี่ยวกับ Bitcoin ให้สอดคล้องกับเงื่อนไขของข้อตกลงกับ IMF โดยมีมติ ยกเลิกกฎหมายเดิมด้วยคะแนนเสียง 55-2
แม้ว่าจะมีการแก้ไขกฎหมาย แต่รัฐบาลยังคงซื้อ Bitcoin อย่างต่อเนื่อง ตัวอย่างเช่น เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ รัฐบาลได้ซื้อ Bitcoin 2 เหรียญในวันเดียว และยังคงดำเนินกลยุทธ์สะสม BTC อย่างสม่ำเสมอ
เมื่อวันที่ 3 มีนาคม IMF ออกคำร้องขอใหม่ กดดันให้เอลซัลวาดอร์หยุดซื้อ Bitcoin และระบุว่า ประเทศไม่สามารถออกหนี้หรือหลักทรัพย์ที่เชื่อมโยงกับ Bitcoin ได้
ประธานาธิบดี Nayib Bukele ตอบโต้คำกดดันจาก IMF โดยยืนยันว่า เอลซัลวาดอร์จะซื้อ Bitcoin ต่อไป พร้อมกล่าวถึงท่าทีของ IMF ว่าเป็นเพียง “เสียงคร่ำครวญ” เท่านั้น
“ถ้าเราไม่หยุด แม้ในช่วงที่โลกพากันต่อต้านเรา และแม้แต่ชุมชน Bitcoin ส่วนใหญ่ก็ทอดทิ้งเรา เราก็จะไม่หยุดตอนนี้ และจะไม่หยุดในอนาคต” — Nayib Bukele
บริษัทคริปโตย้ายฐานมาเอลซัลวาดอร์
ด้วยจุดยืนที่แน่วแน่ของรัฐบาลเอลซัลวาดอร์เกี่ยวกับ Bitcoin บริษัทคริปโตหลายแห่งประกาศย้ายสำนักงานใหญ่มายังประเทศนี้
- 7 มกราคม 2025: Bitfinex Derivatives ประกาศย้ายจาก เซเชลส์ ไปยังเอลซัลวาดอร์
- 13 มกราคม 2025: Tether ผู้ออกเหรียญ Stablecoin รายใหญ่ ประกาศ ย้ายสำนักงานใหญ่ ไปยังเอลซัลวาดอร์
ท่าทีของเอลซัลวาดอร์ในการสนับสนุน Bitcoin อาจทำให้ประเทศกลายเป็นศูนย์กลางของอุตสาหกรรมคริปโตในอนาคต แม้ว่าจะเผชิญแรงกดดันจากองค์กรระหว่างประเทศก็ตาม
อ้างอิง : cointelegraph.com
ภาพ thenextweb.com