การสร้างคลังสำรองสกุลเงินดิจิทัลเชิงกลยุทธ์ในสหรัฐอเมริกา อาจดันมูลค่าตลาด Bitcoin เพิ่มขึ้นประมาณ 25% หรือประมาณ 460 พันล้านดอลลาร์ ตามการวิเคราะห์โดย Sygnum Bank
แผนการของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐอเมริกา สำหรับคลังคริปโตแห่งชาติ รวมถึงข้อเสนอที่คล้ายคลึงกันในหลายสิบรัฐของสหรัฐฯ อาจกระตุ้นให้เกิดการซื้อขายมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ ซึ่งส่งผลให้ราคา Bitcoin เพิ่มขึ้นถึง 20 เท่า ตามที่ Sygnum ซึ่งเป็นผู้จัดการสินทรัพย์คริปโตกล่าว
“ปริมาณ Bitcoin ที่มีอยู่ในตลาดค่อนข้างจำกัด… หากมีเงินทุนจำนวนมากไหลเข้าสู่ตลาด อาจส่งผลให้ราคาปรับตัวขึ้นอย่างรุนแรง” Katalin Tischhauser หัวหน้าฝ่ายวิจัยของ Sygnum ให้สัมภาษณ์
เธอยังเสริมว่า หากรัฐบาลกลางหรือรัฐบาลท้องถิ่นเริ่มซื้อ Bitcoin อาจกระตุ้นให้นักลงทุนสถาบันและรัฐบาลประเทศอื่นๆ เข้ามาลงทุนเพิ่มเติม
Sygnum ระบุว่า กระแสเงินทุนจากนักลงทุนสถาบันส่งผลให้ราคา Bitcoin พุ่งขึ้นแล้ว โดย ทุกๆ เงินทุนไหลเข้าสู่กองทุน ETF Bitcoin มูลค่า 1 พันล้านดอลลาร์ อาจผลักดันราคาสูงขึ้น 3-6%
แผนการสร้างคลังคริปโตของสหรัฐฯ
เมื่อวันที่ 2 มีนาคม ทรัมป์ยืนยันว่าเขาสนับสนุนการสร้าง คลังคริปโตแห่งชาติของสหรัฐฯ ที่จะถือครองทั้ง Bitcoin, Ether (ETH), Solana (SOL) และเหรียญอื่นๆ
หลังจากที่ทรัมป์ประกาศ แรงซื้อในตลาดคริปโตเพิ่มขึ้นอย่างมาก แต่หลังจากนั้นราคาก็ปรับตัวลง เนื่องจากความไม่แน่นอนของภาวะเศรษฐกิจและความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้า
ทรัมป์เริ่มสนับสนุนแนวคิดนี้ตั้งแต่ เดือนกรกฎาคม 2024 หลังจากที่วุฒิสมาชิก Cynthia Lummis เสนอร่างกฎหมาย BITCOIN Act เพื่อให้ Bitcoin เป็นทุนสำรองของสหรัฐฯ นอกจากนี้ กว่าครึ่งหนึ่งของรัฐในอเมริกา กำลังพิจารณาสร้างคลังคริปโตของตนเอง
อย่างไรก็ตาม กระบวนการนี้ยังมีอุปสรรค 5 รัฐปฏิเสธแผนนี้ไปแล้ว และการสร้างคลังคริปโตของรัฐบาลกลางน่าจะต้องผ่านการอนุมัติจากสภาคองเกรส ซึ่งอาจเป็นกระบวนการที่ยาวนานและไม่แน่นอน
“ตลาดยังให้โอกาสความเป็นไปได้ของคลัง Bitcoin แห่งชาติในระดับต่ำ” Tischhauser กล่าว พร้อมเสริมว่า หากมีข่าวเชิงบวกเกี่ยวกับเรื่องนี้ อาจทำให้ราคาบิตคอยน์พุ่งขึ้นทันที
ทำเนียบขาวเตรียมเปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับแผนนี้ใน การประชุมสุดยอดคริปโต วันที่ 7 มีนาคม ตามคำกล่าวของ Howard Lutnick รัฐมนตรีพาณิชย์สหรัฐฯ
เขาแนะนำว่า Bitcoin อาจได้รับสถานะพิเศษในคลังคริปโตของประเทศ ซึ่งจะรวมถึงเหรียญอื่นๆ อย่าง ETH, SOL, XRP และ Cardano (ADA)
“การสนับสนุนจากรัฐบาลระดับนี้ถือเป็นสัญญาณเชิงบวก แต่การเรียกมันว่า ‘คลังสำรองเชิงกลยุทธ์’ ทำให้เกิดความสับสน” Tischhauser กล่าว
“หากรวมเหรียญอื่นๆ เข้าไปด้วย เราอาจกำลังพูดถึง การลงทุนโดยตรงของรัฐบาลสหรัฐฯ ในอุตสาหกรรมคริปโต มากกว่าการสร้างทุนสำรองแบบดั้งเดิม”
อ้างอิง : cointelegraph.com
ภาพ bitcoinist.com