นายกรัฐมนตรี ฟาม มิน ชินห์ (Pham Minh Chinh) ได้สั่งการให้ กระทรวงการคลัง และ ธนาคารแห่งรัฐของเวียดนาม (State Bank of Vietnam) เร่งจัดทำกรอบกฎหมายสำหรับสกุลเงินดิจิทัลภายในเดือนนี้
ในคำสั่งนายกฯ ระบุว่า กระทรวงการคลังต้องเป็นผู้นำในการร่างนโยบายเพื่อกำกับดูแลสินทรัพย์ดิจิทัลและคริปโต
ปัจจุบัน เวียดนามยังไม่มีคำนิยามทางกฎหมายที่ชัดเจนสำหรับสกุลเงินและสินทรัพย์ดิจิทัล เช่น Bitcoin และ Ethereum โดยกฎหมายที่มีอยู่ในขณะนี้ครอบคลุมเพียง เงินอิเล็กทรอนิกส์ (E-money) ที่ผูกกับสกุลเงินทั่วไป เช่น บัตรเติมเงินของธนาคารและกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์
การขาดกรอบกฎหมายที่ชัดเจนทำให้ธุรกิจคริปโตหลายแห่งเลือกจดทะเบียนในสิงคโปร์หรือสหรัฐฯ ก่อนเข้ามาดำเนินกิจการในเวียดนาม ซึ่งส่งผลให้ประเทศสูญเสีย ความสามารถในการแข่งขันและรายได้จากภาษี
“โต ลำ” (To Lam) เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม ได้เน้นย้ำถึงความจำเป็นในการศึกษาและนำ กลไกทดสอบ (sandbox) มาใช้ เพื่อสร้าง แพลตฟอร์มซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลภายใต้การควบคุมของภาครัฐ
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา นายกฯ มอบหมายให้กระทรวงการคลังและกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี จัดทำนโยบายและกฎระเบียบเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัลให้แล้วเสร็จ ไม่เกินไตรมาสที่สองของปีนี้
ในปี 2021 และ 2022 เวียดนามติดอันดับ หนึ่งในสามของประเทศที่มีประชากรถือครองสินทรัพย์ดิจิทัลมากที่สุดในโลก โดยมีประชากรครอบครอง 21% ของทั้งประเทศ เป็นรองเพียง สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และสหรัฐฯ ตามข้อมูลจากสมาคมบล็อกเชนเวียดนาม (Vietnam Blockchain Association)
ขณะที่ในปี 2023 มูลค่าการไหลเข้าของสินทรัพย์ดิจิทัลในเวียดนามสูงถึง 120,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ตามรายงานของบริษัทวิเคราะห์ตลาด Chainalysis
นอกจากนี้ ในคำสั่งเดียวกัน นายกฯ ยังมอบหมายให้ธนาคารแห่งรัฐเวียดนามศึกษาแนวทางการออกสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยสำหรับประชาชนอายุต่ำกว่า 35 ปี รวมถึง ติดตามนโยบายดอกเบี้ยของธนาคารพาณิชย์ เพื่อให้ประชาชนและภาคธุรกิจสามารถเข้าถึงสินเชื่อในอัตราดอกเบี้ยที่เหมาะสม อันเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ
อ้างอิง : e.vnexpress.net
ภาพ thutuong.chinhphu.vn