นักวิจัย Ethereum ได้เสนอแนวทางใหม่ในการสร้างบล็อกที่มุ่งเน้นการกระจายศูนย์ (Decentralization) ให้กับกระบวนการสร้างบล็อกของ Ethereum ซึ่งปัจจุบันยังค่อนข้างรวมศูนย์ (Centralized) โดยใช้ Shared Random Algorithm
แนวคิด “Decentralized Random Block Proposal” จะใช้ Byzantine Fault Tolerance (BFT) เพื่อลดปัญหา Maximal Extractable Value (MEV) ในระดับบล็อก และทำให้การเสนอสร้างบล็อกเป็นไปอย่างเท่าเทียมกันมากขึ้น นอกจากนี้ ยังอาจช่วยเร่งความเร็วในการเผยแพร่ธุรกรรมไปยังเครือข่าย (Transaction Propagation) ตามที่นักวิจัยนามแฝง Malik672 ได้กล่าวไว้ในโพสต์เมื่อวันที่ 1 มีนาคม
Ethereum ยังเผชิญปัญหาการรวมศูนย์ในการสร้างบล็อก
Malik672 อธิบายว่า แม้ว่าระบบ Proof-of-Stake (PoS) และ Proposer-Builder Separation (PBS) ของ Ethereum จะช่วยกระจายการควบคุม MEV ไปบางส่วนแล้ว แต่กลับทำให้ กลุ่ม Builder และ Relay มีความรวมศูนย์มากขึ้น
Toni Wahrstätter นักวิจัยจาก Ethereum Foundation เคยระบุว่า ในช่วงสองสัปดาห์แรกของเดือนตุลาคม มีเพียง 2 ผู้สร้างบล็อกหลัก ได้แก่ Beaverbuild และ Titan Builder ที่สร้างบล็อกไปถึง 88.7% ของบล็อกทั้งหมดของ Ethereum
ปัจจุบัน ตัวเลขนี้ลดลงเหลือ ประมาณ 80% ตามข้อมูลของ Malik672 แต่ยังคงสูงเกินกว่าที่ชุมชน Ethereum ต้องการ
“ระบบใหม่นี้จะเปลี่ยนแปลงกระบวนการสร้างบล็อกโดยสิ้นเชิง บล็อกจะถูกสร้างโดยไคลเอนต์หลายพันตัวทั่วโลก ไม่มีใครสามารถควบคุมได้เหมือนระบบ PBS หรือ Mixer แบบรวมศูนย์ และ BFT จะช่วยลดความแปรปรวนของ mempool ทำให้เครือข่ายมีเสถียรภาพมากขึ้น” — Malik672
MEV: ปัญหาการแสวงหากำไรที่ทำลายหลักการกระจายศูนย์ของ Ethereum
Maximal Extractable Value (MEV) เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นใน Ethereum ซึ่งทำให้ Block Proposers สามารถ จัดเรียง หรือแทรกแซงธุรกรรมเพื่อหากำไร เช่น การทำ Arbitrage และ Front-running ซึ่งทำให้ผู้ใช้ทั่วไปเสียเปรียบ
“MEV กำลังบ่อนทำลายจิตวิญญาณแห่งการกระจายศูนย์ของ Ethereum” — Malik672
Malik672 เชื่อว่าหากใช้แนวคิดใหม่นี้ ทุกไคลเอนต์ของ Ethereum จะมีโอกาสสร้างบล็อกอย่างเท่าเทียมกัน ผ่านกระบวนการสุ่มแบบเข้ารหัส (Cryptographic Random Algorithm) ซึ่งจะ ช่วยลดการควบคุมของกลุ่ม Builder และลดปัญหาการแทรกแซงเพื่อทำกำไร
แนวทางของ Malik672 ยัง เข้ากันได้กับ Danksharding ซึ่งเป็นแนวทางที่พยายามปรับปรุงการ Scaling ของ Layer 2
นอกจากนี้ เขายังอ้างว่า อัลกอริธึมใหม่อาจช่วยลดเวลาสร้างบล็อกจาก 12 วินาที เหลือเพียง 6-8 วินาที ซึ่งจะช่วยให้เครือข่ายทำงานได้เร็วขึ้น
Ethereum กำลังเร่งพัฒนาระบบให้เร็วขึ้น โดยเมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ นักพัฒนาและนักวิจัยของ Ethereum ตกลงที่จะ ปล่อยอัปเกรดใหม่ในอัตราที่เร็วขึ้น เพื่อให้ Ethereum สามารถพัฒนาตามโร้ดแมปทางเทคนิคได้อย่างรวดเร็ว
แนวทางของ Malik672 อาจเป็นหนึ่งในกุญแจสำคัญที่ช่วยให้ Ethereum ก้าวไปสู่ระบบที่ กระจายศูนย์มากขึ้น โปร่งใสขึ้น และเร็วขึ้น
อ้างอิง : cointelegraph.com
ภาพ decrypt.co