การปรับตัวลงของตลาดคริปโตหลังจากที่ โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ยืนยันว่าจะเดินหน้าขึ้นภาษี แคนาดาและเม็กซิโก เป็นเพียงผลกระทบระยะสั้นและไม่น่าจะลากยาว ตามคำกล่าวของ Richard Teng ซีอีโอของ Binance
“นี่เป็นเพียงการถอยทางยุทธวิธี ไม่ใช่การเปลี่ยนแนวโน้ม” Teng กล่าวในโพสต์บน X เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ “คริปโตเคยเผชิญเหตุการณ์ลักษณะนี้มาก่อน และกลับมาแข็งแกร่งยิ่งกว่าเดิม”
คริปโตมักฟื้นตัวหลังเจอความปั่นป่วนทางเศรษฐกิจ
Teng ชี้ว่าตลาดคริปโตมีแนวโน้มที่จะกลับมาแข็งแกร่งหลังจากเผชิญความผันผวนที่เกิดจากปัจจัยเศรษฐกิจมหภาค
“ประวัติศาสตร์แสดงให้เห็นว่าตลาดคริปโตตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจมหภาคในลักษณะเดียวกับสินทรัพย์แบบดั้งเดิม แต่คริปโตก็สามารถฟื้นตัวได้อย่างน่าทึ่ง” Teng กล่าว
“สิ่งที่เราเห็นตอนนี้เป็นเพียงการถอยทางยุทธวิธี ไม่ใช่การปรับฐานเชิงโครงสร้าง” เขาเสริม
คำพูดของ Teng เกิดขึ้นในขณะที่ Bitcoin ร่วงต่ำกว่า $90,000 เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน หลังจากที่ทรัมป์ประกาศเมื่อวันก่อนว่าจะ เดินหน้าขึ้นภาษี 25% สำหรับแคนาดาและเม็กซิโกตามกำหนด โดยก่อนหน้านี้เขาเคยเลื่อนออกไป 30 วัน
ขณะเดียวกัน ดัชนีความกลัวและความโลภของตลาดคริปโต (Crypto Fear & Greed Index) อยู่ที่ 21 จาก 100 คะแนน ในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ ซึ่งอยู่ในระดับ “Extreme Fear” (ความกลัวสุดขีด) โดยดัชนีลดลงถึง 28 จุดภายใน 2 วัน จากเดิมที่อยู่ที่ 49 คะแนน (ระดับเป็นกลาง) เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์
ในขณะเดียวกัน Nansen Risk Barometer ซึ่งเป็นอีกหนึ่งตัวชี้วัดสภาวะตลาดคริปโต ก็เปลี่ยนสถานะเป็น “Risk-off” (เลี่ยงความเสี่ยง) หลังจากอยู่ในสถานะ “Neutral” (เป็นกลาง) มาตั้งแต่กลางเดือนพฤศจิกายน
ทาง Nansen ระบุว่าตลาดต้องการ ความชัดเจนเกี่ยวกับนโยบายภาษีของทรัมป์ และต้องการ หลักฐานว่าการเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ไม่ได้ชะลอตัวมากเกินไป ก่อนที่จะกลับมาลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงอย่างคริปโต
Michaël van de Poppe ผู้ก่อตั้ง MN Trading กล่าวในโพสต์เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ว่า “ทุกครั้งที่ตลาดแตะจุดสูงสุดของความกลัวและผมได้รับข้อความตื่นตระหนกมากมาย นั่นมักเป็นสัญญาณที่ดี”
อย่างไรก็ตาม Teng มองว่าความผันผวนล่าสุดของตลาดคริปโตเกิดจาก ท่าทีระมัดระวังของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) เกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ซึ่งการลดดอกเบี้ยมักส่งผลเชิงบวกต่อคริปโต เนื่องจากทำให้ ผลตอบแทนจากสินทรัพย์แบบดั้งเดิล (เช่น พันธบัตรและเงินฝากประจำ) ลดลง นักลงทุนจึงมีแนวโน้มที่จะมองหาสินทรัพย์เสี่ยง เช่น คริปโต มากขึ้น
Teng ยังกล่าวว่า “ความต้องการ ETF คริปโตยังคงแข็งแกร่ง” และการที่ยังมีการยื่นขอเปิดตัว ETF คริปโตใหม่อย่างต่อเนื่องในสหรัฐฯ ถือเป็นสัญญาณบวกที่บ่งบอกว่าตลาดยังมีศักยภาพเติบโตในระยะยาว
อ้างอิง : cointelegraph.com
ภาพ cryptoslate.com