ก.ล.ต. ไทยเตรียมเปิดแพลตฟอร์มการซื้อขายโทเค็นดิจิทัลโดยใช้เทคโนโลยี DLT

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ของไทยกำลังวางแผนเปิดตัวแพลตฟอร์มซื้อขายที่ใช้เทคโนโลยี Distributed Ledger Technology – DLT เพื่อให้บริษัทหลักทรัพย์สามารถซื้อขายโทเค็นดิจิทัลได้

ตามรายงานของ Bangkok Post เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ รองเลขาธิการ ก.ล.ต. นางจอมขวัญ คงสกุล เปิดเผยว่า การลงทุนในโทเค็นดิจิทัลกำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น และทาง ก.ล.ต. จะอนุญาตให้บริษัทหลักทรัพย์สามารถซื้อขายโทเค็นดิจิทัลเพื่อใช้ประโยชน์จากฐานนักลงทุนขนาดใหญ่ของตน

“ก.ล.ต. กำลังใช้เทคโนโลยีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในตลาดทุนโดยส่งเสริมระบบนิเวศของหลักทรัพย์อิเล็กทรอนิกส์” นางจอมขวัญกล่าว พร้อมเสริมว่า “กฎระเบียบใหม่จะถูกนำมาใช้เพื่อสนับสนุนการออกหลักทรัพย์อิเล็กทรอนิกส์และการซื้อขายหุ้นกู้ทางออนไลน์”

ปัจจุบัน มีโครงการโทเค็นดิจิทัล 4 โครงการที่ได้รับอนุมัติให้เข้าร่วมระบบซื้อขายตราสารหนี้แบบ DLT ของ ก.ล.ต. และยังมีอีก 2 โครงการที่อยู่ระหว่างการพิจารณา โดยเน้นไปที่โทเค็นสีเขียวและโครงการการลงทุน

ระบบการซื้อขายตราสารหนี้ดิจิทัลแบบครบวงจร

แพลตฟอร์มใหม่นี้จะรองรับการซื้อขายตราสารหนี้ในตลาดแรกและตลาดรองแบบครบวงจร ตั้งแต่กระบวนการซื้อขาย การชำระราคา การลงทะเบียนนักลงทุน และการชำระเงิน โดยจะสนับสนุนการทำงานร่วมกันระหว่างบล็อกเชนหลายระบบ แม้ว่า ก.ล.ต. จะยังไม่ได้ระบุว่าใช้บล็อกเชนใดบ้าง

“ในอนาคต อาจมีการใช้หลายบล็อกเชนสำหรับการซื้อขาย โดยการซื้อขายผ่านระบบ DLT ทั้งหมดจะเชื่อมต่อกันด้วยบัญชีแยกประเภทร่วมกัน ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในเร็ว ๆ นี้” นางจอมขวัญกล่าว

ทั้งนี้ จะมีการออกหลักทรัพย์ 2 ประเภท ได้แก่

  1. หลักทรัพย์แบบ Tokenized Traditional Securities – หลักทรัพย์ดั้งเดิมที่ถูก Tokenized บนบล็อกเชน
  2. หลักทรัพย์อิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Securities) – ผลิตภัณฑ์การลงทุนที่ออกแบบให้เป็นสินทรัพย์ดิจิทัลโดยกำเนิด

การเติบโตของตลาดคริปโตและโทเค็นดิจิทัลในไทย

นายนิรันดร์ ฟูวัฒนานุกูล ซีอีโอของ Binance Thailand กล่าวว่า ตลาดคริปโตในไทยกำลัง “พัฒนาไปสู่ตลาดสถาบัน” โดยเน้นไปที่ทั้งหลักทรัพย์แบบ Tokenized และสินทรัพย์คริปโต

แม้ว่าการใช้คริปโตในการชำระเงินยังคงถูกห้ามโดยธนาคารแห่งประเทศไทย แต่มีแผนที่จะเปิดตัวโครงการนำร่อง “Bitcoin Payment Sandbox” ที่เกาะภูเก็ตในปีนี้ เพื่อให้ชาวต่างชาติสามารถใช้คริปโตเป็นทางเลือกในการชำระเงิน ขณะเดียวกันทางการจะใช้โครงการนี้เพื่อประเมินความเสี่ยงที่เกี่ยวข้อง

อ้างอิง : cointelegraph.com

Share on facebook
Share on twitter
Share on linkedin

Radius

ผู้เชี่ยวชาญการเขียนข่าว บทความ ที่เกี่ยวข้องกับ Bitcoin , คริปโตเคอเรนซี่ และ Blockchain ทั้งในไทยและต่างประเทศ อัพเดทราคา มุมมองการลงทุน ใหม่ล่าสุดทุกวัน
ข่าวต่อไป

FOLLOW ME

Blockchain Life 2024

Crypto Coffee

Cryptomind Research Talk

CryptOmakase

ข่าวต่อไป