เจฟฟ์ พาร์ค หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์อัลฟาของบริษัทบริการทางการเงิน BitWise แสดงความเห็นว่า มาตรการภาษีการค้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะส่งผลให้ราคา Bitcoin “พุ่งขึ้นอย่างรุนแรง” ในระยะยาว เนื่องจากการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐในตลาดเงินตราโลกและผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐที่ต่ำลง
ตามความเห็นของนักวิเคราะห์ การผลักดันมาตรการภาษีมีเป้าหมายสุดท้ายเพื่อทำให้เงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงในการค้าระหว่างประเทศ เพื่อแก้ไขความไม่สมดุลทางการค้าและทำให้สินค้าส่งออกของสหรัฐฯ น่าดึงดูดมากขึ้น
พาร์คกล่าวว่า “Plaza Accord 2.0 กำลังจะมาถึง” ซึ่งอ้างอิงถึงข้อตกลงในปี 1985 ระหว่างสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น เยอรมันตะวันตก ฝรั่งเศส และสหราชอาณาจักร เพื่อทำให้เงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง
นักวิเคราะห์เสริมว่า มาตรการภาษีจะทำให้เกิดภาวะเงินเฟ้อที่สูงขึ้น ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อประเทศคู่ค้าของสหรัฐฯ อย่างไม่เท่าเทียมกัน และนำไปสู่การลดค่าเงินทั่วโลก ส่งผลให้ประชาชนในประเทศเหล่านั้นแสวงหาสินทรัพย์ที่เป็นแหล่งเก็บมูลค่าทางเลือก เช่น Bitcoin
มาตรการภาษีของทรัมป์ทำให้ตลาดคริปโตร่วง
แม้จะมีมุมมองราคาในระยะยาวที่อาจเป็นบวกตามที่เจฟฟ์ พาร์คกล่าวไว้ ตลาดคริปโตก็ร่วงลงตามปฏิกิริยาต่อมาตรการภาษีที่ประธานาธิบดีทรัมป์ประกาศใช้กับแคนาดา จีน และเม็กซิโก
ข้อมูลจาก CoinMarketCap แสดงให้เห็นว่า altcoins ได้รับผลกระทบหนักที่สุด โดยเหรียญที่มีมูลค่าตลาดสูงอย่าง Ether, SOL และ XRP ร่วงลงประมาณ 11.6%, 19.3% และ 16.6% ตามลำดับในช่วงเจ็ดวันที่ผ่านมา
นักลงทุนมองว่าสงครามการค้าอาจทำให้เงินเฟ้อสูงขึ้นในเดือนข้างหน้า และได้หันไปลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำเพื่อป้องกันความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจมหภาค
เงินดอลลาร์สหรัฐแสดงความแข็งแกร่งในระยะสั้น
ดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ (DXY) ซึ่งเป็นมาตรวัดความแข็งแกร่งของเงินดอลลาร์สหรัฐเทียบกับสกุลเงินอื่นๆ ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ตุลาคม 2024 ในเดือนมกราคม 2025 ความแข็งแกร่งของดอลลาร์ชะลอตัวลงเล็กน้อย แต่ได้ฟื้นตัวกลับมาบางส่วนในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2025

การแข็งค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐและผลตอบแทนของดอลลาร์สหรัฐที่สูงขึ้น อาจสร้างปัญหาต่อราคาระยะสั้นของบิทคอยน์และสินทรัพย์เสี่ยงอื่นๆ เนื่องจากนักลงทุนหันเหจากสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงไปสู่พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ
อ้างอิง : cointelegraph.com
ภาพ vox-com.zproxy.org