ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ได้ลงนามคำสั่งฝ่ายบริหารฉบับแรกของเขาซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อผู้ใช้งานสกุลเงินดิจิทัลและผู้นำในอุตสาหกรรม ซึ่งหลายคนคาดการณ์ไว้ตั้งแต่วันแรกที่ดำรงตำแหน่ง
ในการกล่าวสุนทรพจน์จากห้องทำงานเมื่อวันที่ 23 มกราคม ทรัมป์ปรากฏตัวพร้อมกับ เดวิด แซ็กส์ “ผู้ควบคุม AI และคริปโต” ซึ่งอธิบายคำสั่งของฝ่ายบริหารให้ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ทราบ
ตามคำกล่าวของแซ็กส์ ฝ่ายบริหารได้จัดตั้ง “กลุ่มทำงานภายในเพื่อทำให้สหรัฐอเมริกากลายเป็นเมืองหลวงของโลกด้านคริปโต” โดยตัวเขาเองเป็นประธานในความพยายามดังกล่าว
นอกจากนี้ คำสั่งดังกล่าวยังห้าม “การจัดตั้ง , ออก , หมุนเวียน และใช้งาน” สกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลางสหรัฐฯ (CBDC) และขอให้กลุ่มทำงานศึกษาความเป็นไปได้ในการสร้างและบำรุงรักษาคลังสกุลเงินดิจิทัลแห่งชาติและกรอบการกำกับดูแลสำหรับ stablecoins
หากกลุ่มทำงานได้รับการจัดตั้งขึ้นจะประกอบด้วยรัฐมนตรีกระทรวงการคลังสหรัฐฯ , อัยการสูงสุด , ประธานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ , ประธานคณะกรรมการกำกับการซื้อขายล่วงหน้าสินค้าโภคภัณฑ์ สมาชิกคณะรัฐมนตรีของทรัมป์ และหัวหน้าหน่วยงานอื่นๆ
ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวว่าแซ็กส์จะ “ทำเงินได้มหาศาล” จากคำสั่งฝ่ายบริหารเกี่ยวกับ AI และสกุลเงินดิจิทัล ตามข้อความในคำสั่งด้านสกุลเงินดิจิทัล โดยคำสั่งของทรัมป์เพิกถอนคำสั่งเมื่อเดือนมีนาคม 2022 ของอดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดนซึ่งสั่งให้หน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐฯจัดตั้งกรอบการกำกับดูแลสกุลเงินดิจิทัล
ยังไม่ชัดเจนว่าประธานาธิบดีสหรัฐฯ มีอำนาจมากเพียงใดในการตรากฎหมายและนโยบายบางอย่างภายใต้คำสั่งฝ่ายบริหาร ตัวอย่างเช่น เมื่อวันที่ 20 มกราคม ทรัมป์ได้ลงนามในคำสั่งที่เพิกถอนสิทธิการเป็นพลเมืองโดยกำเนิดภายใต้การแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญสหรัฐฯ ครั้งที่ 14 ซึ่งความพยายามดังกล่าวถูกขัดขวางอย่างรวดเร็วโดยผู้พิพากษาของรัฐบาลกลางเนื่องจาก “ขัดต่อรัฐธรรมนูญอย่างชัดเจน”
อ้างอิง : cointelegraph.com