ไมเคิล เซย์เลอร์ ผู้ร่วมก่อตั้ง MicroStrategy โพสต์รูปหัวใจ Bitcoin ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้การซื้อ BTC ในวันถัดไป ต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 11 เมื่อวันที่ 19 มกราคม
“พรุ่งนี้ทุกอย่างจะแตกต่างออกไป” เซย์เลอร์เขียนบนโซเชียลมีเดีย — ซึ่งน่าจะเป็นการพาดพิงถึงพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งของว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ในวันที่ 20 มกราคม
บริษัทได้ซื้อ Bitcoin จำนวน 2,530 BTC มูลค่าประมาณ 243 ล้านดอลลาร์ เมื่อวันที่ 13 มกราคม ทำให้ MicroStrategy มี Bitcoin รวมทั้งสิ้น 450,000 BTC
MicroStrategy ยังคงสะสม Bitcoin อย่างต่อเนื่องตามแผน 21/21 ซึ่งมีเป้าหมายระดมทุน 42 พันล้านดอลลาร์จากตราสารทุนและตราสารหนี้เพื่อใช้ในการซื้อ Bitcoin ปัจจุบันบริษัทเป็นองค์กรที่ถือ BTC มากที่สุด
ประเทศต่างๆ สามารถใช้กลยุทธ์แปลงหนี้เป็น BTC
เซย์เลอร์เคยกล่าวว่าประเทศแรกที่พิมพ์เงินจำนวนมากหรือออกตราสารหนี้และแปลงสกุลเงินนั้นเป็น Bitcoin จะสามารถแซงหน้าประเทศอื่นๆ และเพิ่มสถานะทางเศรษฐกิจได้อย่างมหาศาล
ผู้บริหารท่านนี้ยังเสริมว่ากระทรวงการคลังสหรัฐฯ ควรแปลงทองคำที่ถืออยู่เป็น Bitcoin — ซึ่งจะเป็นการลดมูลค่าทองคำสำรองของประเทศคู่แข่งไปพร้อมๆ กับการเพิ่มทุนสำรอง BTC
ในเดือนธันวาคม 2024 เซย์เลอร์ได้นำเสนอกรอบการกำกับดูแลคริปโตสำหรับสหรัฐฯ ซึ่งรวมถึงแผนการจัดตั้งทุนสำรอง Bitcoin มูลค่า 81 ล้านล้านดอลลาร์ ผู้บริหารเขียนในกรอบสินทรัพย์ดิจิทัลว่า:
“นโยบายสินทรัพย์ดิจิทัลเชิงกลยุทธ์สามารถเสริมความแข็งแกร่งให้กับดอลลาร์สหรัฐฯ ลดผลกระทบของหนี้สาธารณะ และวางตำแหน่งให้อเมริกาเป็นผู้นำระดับโลกในเศรษฐกิจดิจิทัลศตวรรษที่ 21”
แผนดังกล่าวรวมถึงเป้าหมายในการผลักดันตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลให้มีมูลค่าตลาดรวม 10 ล้านล้านดอลลาร์ และขยายตลาดทุนสินทรัพย์ดิจิทัลให้เติบโตถึง 280 ล้านล้านดอลลาร์
ในเดือนพฤศจิกายน 2024 แอนโทนี พอมพลิอาโน ผู้จัดการสินทรัพย์ได้เรียกร้องให้สหรัฐฯ จัดตั้งทุนสำรอง Bitcoin
พอมพลิอาโนโต้แย้งว่าองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รัฐบาลมลรัฐ และรัฐบาลกลางควรพยายามซื้อ Bitcoin ให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้โดยเร็ว
เช่นเดียวกับเซย์เลอร์ พอมพลิอาโนเน้นย้ำว่าเวลากำลังหมดลง และเจ้าหน้าที่ในสหรัฐฯ ควรยอมรับ Bitcoin เป็นสินทรัพย์สำรองเชิงกลยุทธ์เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกประเทศอื่นแซงหน้า
อ้างอิง : cointelegraph.com
ภาพ bloomberg.com
