เมื่อวันที่ 7 มกราคม บริษัท Coinbase ได้รับชัยชนะเล็กๆ ในคดีแพ่งที่ต่อสู้กับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ (SEC) หลังจากที่ผู้พิพากษาศาลรัฐบาลกลางอนุมัติคำสั่งให้มีการอุทธรณ์ระหว่างคดี
ตามเอกสารที่ยื่นต่อศาลแขวงสหรัฐฯ เขตทางตอนใต้ของนิวยอร์ก ผู้พิพากษา Katherine Failla ได้อนุมัติการอุทธรณ์คำสั่งที่ปฏิเสธคำร้องขอให้มีคำพิพากษาของ Coinbase ซึ่งเธอได้ยื่นไว้ในเดือนมีนาคม 2024 ผู้พิพากษา Failla ได้สั่งให้ระงับการดำเนินการทั้งหมดในคดีนี้ไว้ก่อน จนกว่าศาลอุทธรณ์ภาค 2 จะมีคำตัดสินเกี่ยวกับการอุทธรณ์ระหว่างคดี
หนึ่งในข้อโต้แย้งสำคัญในคดีที่ SEC ฟ้อง Coinbase คือการกล่าวหาว่า “ธุรกรรมบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับสินทรัพย์คริปโตมีคุณสมบัติเป็นสัญญาการลงทุนที่อยู่ภายใต้อำนาจการกำกับดูแลของ SEC” หรือพูดง่ายๆ คือถือเป็นหลักทรัพย์นั่นเอง ผู้พิพากษา Failla กล่าวว่ามี “ความเป็นไปได้ที่จะมีการกลับคำตัดสิน” ในการตีความของเธอเกี่ยวกับสัญญาการลงทุนตามหลักเกณฑ์ Howey test จึงอนุญาตให้ Coinbase อุทธรณ์ได้
เอกสารดังกล่าวระบุว่ามี “ข้อสรุปที่ขัดแย้งกัน” จากผู้พิพากษาที่ดูแลคดีแพ่งของ SEC ต่อ Terraform Labs และ Ripple Labs ซึ่งคำตัดสินของศาลแต่ละฉบับมีการตีความที่แตกต่างกันว่าอะไรคือหลักทรัพย์ รวมถึงการตัดสินของผู้พิพากษาในคดี Ripple ที่ว่าโทเค็น XRP ไม่ถือเป็นหลักทรัพย์ในแง่ของการขายแบบโปรแกรมบนกระดานเว็บเทรดสกุลเงินดิจิทัล
Paul Grewal ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายกฎหมายของ Coinbase กล่าวในโพสต์ X เมื่อวันที่ 7 มกราคมว่าบริษัท “รู้สึกขอบคุณที่ศาลพิจารณาอย่างรอบคอบ” ในการอนุมัติการอุทธรณ์ นอกจากนี้ Coinbase ยังสนับสนุนความพยายามในการให้หน่วยงานของรัฐเปิดเผยเอกสารที่บ่งชี้ว่าเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการรณรงค์เพื่อปลดบริษัทคริปโตออกจากธนาคาร ซึ่งเรียกกันทั่วไปว่า Operation Chokepoint 2.0
อ้างอิง : cointelegraph.com
ภาพ cryptometer.io