Michael Saylor ผู้ก่อตั้ง MicroStrategy สนับสนุนการสำรอง Bitcoin เชิงกลยุทธ์ของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ในข้อเสนอเกี่ยวกับนโยบายสินทรัพย์ดิจิทัลที่เผยแพร่เมื่อวันศุกร์ ซึ่งเรียกว่า “กรอบสินทรัพย์ดิจิทัล” นี้ยังวางแผนให้สหรัฐฯ สนับสนุนการเติบโตของอุตสาหกรรม , กำหนดมาตรฐานสำหรับการปฏิบัติตามและการสื่อสาร , รวมถึงกำหนดสิทธิสำหรับผู้ถือสินทรัพย์ดิจิทัลและบริษัทต่างๆ
“การจัดทำกรอบการทำงานที่ถูกต้องจะทำให้สหรัฐฯ เป็นผู้นำเศรษฐกิจดิจิทัลของโลกได้” Saylor เขียนไว้ในข้อเสนอของเขา “การฟื้นตัวของตลาดทุนที่ขับเคลื่อนด้วยสินทรัพย์ดิจิทัลจะปลดล็อกความมั่งคั่งนับล้าน , เพิ่มอำนาจให้กับธุรกิจนับล้าน , และทำให้ดอลลาร์สหรัฐแข็งแกร่งขึ้นในฐานะรากฐานของระบบการเงินดิจิทัลในศตวรรษที่ 21”
Saylor กลายเป็นหนึ่งในผู้สนับสนุน Bitcoin ที่โดดเด่นที่สุดหลังจากที่บริษัทของเขาเริ่มซื้อสินทรัพย์ดังกล่าวในปี 2020 โดยเดิมพันว่านโยบายการเงินและการคลังของสหรัฐฯ จะทำให้มูลค่าของดอลลาร์ลดลง โดย MicroStrategy ปัจจุบันเป็นผู้ถือครอง Bitcoin รายใหญ่ที่สุด โดยมีสต็อก Bitcoin ประมาณ 42,600 ล้านดอลลาร์
Saylor ต้องการให้สหรัฐฯ เป็นศูนย์กลางของเศรษฐกิจดิจิทัล และเป็นศูนย์กลางของเศรษฐกิจโลกต่อไป โดยเขาโต้แย้งว่าการกลายเป็นศูนย์กลางของสกุลเงินดิจิทัลเป็นกุญแจสำคัญในการรักษาสถานะความเป็นใหญ่ของดอลลาร์สหรัฐ
สหรัฐฯ ควรวางตำแหน่งดอลลาร์ให้เป็น “สกุลเงินดิจิทัลสำรองของโลก” โดยขยายตลาด stablecoin จากมูลค่าตลาด 25,000 ล้านดอลลาร์เป็น 10 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งจะ “สร้างความต้องการมหาศาลสำหรับพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ” นอกจากนี้ เขายังเรียกร้องให้นักลงทุนสหรัฐฯ “เข้ายึดครองความมั่งคั่งส่วนใหญ่” ของอุตสาหกรรมสกุลเงินดิจิทัลที่กำลังเติบโต
Saylor ยังสนับสนุนให้สร้าง “คลังสำรอง Bitcoin เชิงกลยุทธ์” ซึ่งเป็นนโยบายที่สมาชิกรัฐสภาสหรัฐหลายคน รวมทั้งวุฒิสมาชิก Cynthia Lummis และประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แม้ว่า Saylor จะไม่ได้ระบุว่ากระทรวงการคลังสหรัฐจะซื้อโทเค็นได้กี่เหรียญ แต่เขาแย้งว่ากระทรวงการคลังควรสร้างคลังสำรอง “ที่สามารถสร้างความมั่งคั่งได้ 16–81 ล้านล้านดอลลาร์” (ในราคาปัจจุบัน นั่นจะเท่ากับประมาณ 800 ล้าน BTC ซึ่งมากกว่าขีดจำกัดอุปทานปัจจุบันที่ 21 ล้าน BTC ที่จะจัดสรรได้)
อ้างอิง : theblock.co