Bitcoin กำไรเพิ่มขึ้น 129% ในรอบปี โดยได้รับแรงหนุนหลักจากผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาในปี 2024 และเหตุการณ์ Halving ในเดือนเมษายน 2024
ตามข้อมูลจาก ICO Analytics พบว่า Bitcoin มีอัตราเติบโต 37% ในเดือนพฤศจิกายน 2024 ซึ่งข้อมูลของ ICO Analytics ที่วัดประสิทธิภาพของ Bitcoin รายเดือนระหว่างปี 2011-2024 และเผยให้เห็นว่าเพียง 3 ปีเท่านั้นที่ Bitcoin มีอัตราเติบโตเป็นเปอร์เซ็นต์ที่สูงกว่าในเดือนพฤศจิกายน
ซึ่งรวมถึงปี 2013 ที่มีกำไรสูงถึง 459% ปี 2017 ที่เพิ่มขึ้น 54% และปี 2020 ที่ Bitcoin ทำกำไรได้ 42% ในเดือนนั้น
นักวิเคราะห์ต่างจับตาดูราคา Bitcoin ที่ 100,000 ดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นระดับทางจิตวิทยาที่สำคัญ อย่างไรก็ตาม การไปสู่ระดับ 100,000 ดอลลาร์นั้นพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเป็นเรื่องที่พูดได้ง่ายกว่าทำจริง โดยราคา Bitcoin ทะลุ 99,000 ดอลลาร์ในวันที่ 22 พฤศจิกายน ก่อนจะกลับลงมาที่ระดับ 96,000-98,000 ดอลลาร์อีกครั้ง
เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน ราคา Bitcoin futures บน Chicago Mercantile Exchange (CME) พุ่งแตะ 100,200 ดอลลาร์เป็นครั้งที่สองภายในเวลาเจ็ดวัน ซึ่งทำให้บรรดานักวิเคราะห์คาดเดาว่าราคาสปอตอาจพุ่งขึ้นถึงระดับนั้นในเร็วๆ นี้
แม้ว่าราคาของ Bitcoin futures จะสูงขึ้น แต่ Bitcoin dominance กลับลดลง โดยเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2024 นั้น Bitcoin dominance ลดลงเหลือ 56.1%ซึ่งเป็นสัญญาณว่านักลงทุน Bitcoin กำลังทำกำไรและหันไปลงทุนใน altcoin และอาจเป็นจุดเริ่มต้นของ altcoin season
Raoul Pal ซีอีโอของ Global Macro Investor คาดการณ์ไว้เมื่อไม่นานนี้ว่า ราคา Bitcoin จะพุ่งแตะระดับสูงสุดที่ 110,000 ดอลลาร์ซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้นก่อนสิ้นเดือนมกราคม 2025 นอกจากนี้ Pal ยังคาดการณ์อีกด้วยว่าราคา Bitcoin จะพุ่งถึงจุดสูงสุดในช่วงปลายปี 2025
ผู้สนับสนุน Bitcoin อย่าง Samson Mow มองว่าราคาที่ 100,000 ดอลลาร์อาจเป็นจุดที่ “Omega Candle” ปรากฏขึ้นซึ่ง “Omega Candle” หรือ “God Candle” ของ Mow หมายถึง การพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วอย่างไม่น่าเชื่อของราคา Bitcoin ซึ่งอาจพา Bitcoin ไปสู่ระดับ 1 ล้านดอลลาร์หรือมากกว่านั้นต่อเหรียญ
อ้างอิง : cointelegraph.com
ภาพ 2moonsai.com