Bitcoin ได้เข้าสู่ “parabolic phase” ของวัฏจักรตลาด โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าราคาจะขึ้นไปสูงกว่า 110,000 ดอลลาร์ก่อนสิ้นเดือนมกราคม
โดยอาจพุ่งขึ้นสูงกว่า 110,000 ดอลลาร์ก่อนสิ้นเดือนมกราคม ซึ่งอิงจากความสัมพันธ์กับดัชนีสภาพคล่องรวมของ Global Macro Investor ซึ่งมอบมุมมองรวมกันของงบดุลของธนาคารกลางหลักทั้งหมด
ราคา 110,000 ดอลลาร์นั้นเป็นเพียง “local top” สำหรับวงจร Bitcoin ในปัจจุบัน ตามที่ Raoul Pal ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ Global Macro Investor เขียนไว้ในโพสต์ X เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน :
หากราคาของ Bitcoin เดินตาม liquidity index นั้น Bitcoin’s right-hand side (RHS) ซึ่งเป็น lowest bid price ที่บุคคลหนึ่งยินดีจะขายสกุลเงินนี้ จะมีราคาสูงสุดที่ใกล้เคียง 110,000 ดอลลาร์ในเดือนมกราคม 2025 ก่อนที่จะลดลงต่ำกว่า 70,000 ดอลลาร์ในเดือนกุมภาพันธ์ 2025
การปรับฐานที่อาจเกิดขึ้นต่ำกว่า 70,000 ดอลลาร์นั้นเป็นเพียงชั่วคราวเท่านั้น เนื่องจากสิ่งที่ Pal เรียกว่า “interim peak in liquidity” ซึ่งเขาคาดว่าจะยังคงเพิ่มขึ้นต่อไปจนถึงไตรมาสที่สามของปี 2025
Alvin Kan ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของ Bitget Wallet กล่าวว่าอุปทานเงินที่เพิ่มขึ้นถือเป็นปัจจัยสำคัญในประวัติศาสตร์ที่ทำให้ราคา Bitcoin สูงขึ้น
“การเพิ่มสภาพคล่องจากเฟดมักจะช่วยปรับปรุงสภาพตลาดสำหรับสินทรัพย์เสี่ยง เช่น Bitcoin ในอดีต ซึ่งการอัดฉีดสภาพคล่องดังกล่าวทำให้ผู้ลงทุนสนใจและเงินทุนไหลเข้าสู่สกุลเงินดิจิทัลมากขึ้น”
นักวิเคราะห์รายอื่นๆ คาดว่าสภาพคล่องทั่วโลกจะถึงจุดสูงสุดในช่วงปลายเดือนมกราคม 2026
จากข้อมูลในอดีต Bitcoin อาจดูดซับเงินหมุนเวียนใหม่ได้มากถึง 10% ซึ่งอาจดึงดูดการลงทุนใหม่มูลค่า 2 ล้านล้านดอลลาร์เข้าสู่ Bitcoin ภายในปี 2025 โดยอิงจากการเพิ่มขึ้นของสภาพคล่องที่คาดการณ์ไว้ 20 ล้านล้านดอลลาร์
อุปทานเงินที่เพิ่มขึ้นอาจทำให้ราคา Bitcoin เพิ่มขึ้นสูงถึง 132,000 ดอลลาร์ในปีหน้า ตามภาพที่แบ่งปันโดย Jamie Coutts นักวิเคราะห์คริปโตหลักที่ Real Vision
นอกเหนือจากอุปทานเงินที่เพิ่มขึ้นแล้ว ราคาของ Bitcoin ยังได้รับการหนุนอย่างมากจากชัยชนะของ โดนัลด์ ทรัมป์ ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน
ชัยชนะของทรัมป์จุดประกายให้เกิดกระแสความอยากเสี่ยงครั้งใหม่ ซึ่งคาดว่าจะช่วยหนุนการพุ่งขึ้นของราคาคริปโตในปี 2025
“เราคาดหวังว่าสินทรัพย์ดิจิทัลทั้งหมดจะยังคงสร้างจุดสูงสุดใหม่ต่อไปในปีใหม่เมื่อรัฐบาลทรัมป์เข้ามาบริหารประเทศและอุตสาหกรรมได้รับประโยชน์จากสภาพแวดล้อมด้านกฎระเบียบที่สนับสนุนมากขึ้นเรื่อยๆ”
อ้างอิง : cointelegraph.com
ภาพ medium.com