นักวิเคราะห์ของ Standard Chartered และ Zodia Markets คาดการณ์ว่า Stablecoin จะมีการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญในการนำมาใช้ ซึ่งอาจคิดเป็น 10% ของธุรกรรม M2 ของสหรัฐฯ ในอนาคต
“ในปัจจุบัน Stablecoin มีขนาดเทียบเท่ากับ 1% ของธุรกรรม M2 ของสหรัฐฯ และ 1% ของธุรกรรม FX เท่านั้น แต่เมื่อภาคส่วนนี้ได้รับการยอมรับมากขึ้น การเพิ่มเป็น 10% ในแต่ละมาตรการก็เป็นไปได้” Geoff Kendrick หัวหน้าฝ่ายวิจัยสินทรัพย์ดิจิทัลระดับโลกของ Standard Chartered และ Nick Philpott ผู้ร่วมก่อตั้ง Zodia Markets กล่าวในรายงานเมื่อวันพฤหัสบดี
นักวิเคราะห์มองว่าปัจจัยหลักที่ขับเคลื่อนการเติบโตนี้คือการควบคุม stablecoin ในสหรัฐอเมริกา ในช่วงการบริหารของไบเดน ได้มีการเสนอร่างกฎหมายสำคัญ 3 ฉบับเพื่อสร้างกรอบการกำกับดูแลสำหรับธนาคารในการออก stablecoin แม้ว่าจะมีความคืบหน้าเพียงเล็กน้อยก็ตาม อย่างไรก็ตามเค้ามองว่าการบริหารของทรัมป์ที่กำลังจะเข้ามามีศักยภาพในการสร้างความคืบหน้าที่สำคัญยิ่งขึ้นในการกำกับดูแล stablecoin ซึ่งอาจเร่งการพัฒนาของภาคส่วนนี้
นักวิเคราะห์ยังเน้นย้ำถึงข้อจำกัดของโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินระดับโลกในปัจจุบัน โดยระบบธนาคารตัวแทนและ SWIFT ซึ่งแทบไม่มีการเปลี่ยนแปลงตั้งแต่มีการนำระบบการชำระเงินแบบเรียลไทม์ (RTGS) มาใช้ในช่วงต้นทศวรรษ 1990 โดยเรียกเก็บค่าธรรมเนียมตามการเป็นสมาชิก ปริมาณธุรกรรม และส่วนลด การชำระเงินมักถูกควบคุมโดยอิงตามราคาและเวลา ซึ่งไม่ชัดเจนสำหรับลูกค้าจำนวนมาก นักวิเคราะห์กล่าวว่า “การชำระเงินถูกควบคุมโดยอิงตามราคาและเวลา ซึ่งมีผลเป็นคิวที่ยึดตามหลักการ ‘มาก่อนได้ก่อน'”
รายงานของ Standard Chartered ยังระบุว่า Stablecoin ถูกนำมาใช้มากขึ้นเรื่อยๆ นอกเหนือไปจากการซื้อขายหลักทรัพย์ค้ำประกัน โดยมีการใช้งานเพิ่มมากขึ้นในการชำระเงินข้ามพรมแดน , การจ่ายเงินเดือน , การชำระเงินทางการค้า และการโอนเงิน โดยรายงานดังกล่าวอ้างถึงการสำรวจของ YouGov ที่พบว่า Stablecoin ได้รับความนิยมในตลาดเกิดใหม่ โดยเฉพาะในบราซิล ตุรกี ไนจีเรีย อินเดีย และอินโดนีเซีย
Stablecoins กำลังได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นสำหรับการใช้งานต่างๆ รวมถึงการชำระเงินข้ามพรมแดน , การทดแทนสกุลเงิน , และการเข้าถึงผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่มีผลตอบแทนสูง ซึ่งการนำมาใช้กำลังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในตลาดเหล่านี้ โดยผู้ใช้ 69% ระบุว่าการทดแทนสกุลเงินเป็นการใช้งาน Stablecoins ที่พบบ่อยที่สุด รองลงมาคือผู้ใช้ 39% ใช้ Stablecoins เพื่อชำระค่าสินค้าและบริการ และอีก 39% ใช้ Stablecoins เพื่อชำระเงินข้ามพรมแดน
อ้างอิง : theblock.co