Worldcoin ซึ่งเป็นบริษัทที่ดำเนินการตรวจสอบยืนยันตัวตนโดยใช้บล็อคเชน ได้ลบคำว่า “coin” ออกจากชื่อบริษัทแล้ว และเปลี่ยนชื่อมาเป็น “World” แทน โดยในปัจจุบัน Sam Altman ผู้ก่อตั้งบริษัท ได้ประกาศเรื่องการเปลี่ยนชื่อแบรนด์ระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม
World ยังได้เปิดเผยการอัปเดตอื่นๆ อีกมากมาย รวมถึงอุปกรณ์สแกนไบโอเมตริก Orb เวอร์ชันใหม่ , ตัวเลือกใหม่สำหรับการยืนยันตัวตน , และการบูรณาการความร่วมมือกับแอปยอดนิยม เช่น FaceTime, WhatsApp และ Zoom
งานดังกล่าวได้ถูกถ่ายทอดสดทาง YouTube เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม ซึ่งการสร้างแบรนด์ใหม่ก็ปรากฏให้เห็นผ่านบัญชีโซเชียลมีเดียของบริษัททันทีที่มีการประกาศเรื่องนี้
ในงาน World ได้เปิดตัวอุปกรณ์ไบโอเมตริกรุ่นใหม่ “Orb” ที่บริษัทใช้สแกนดวงตาของผู้ใช้ โดยอุปกรณ์ Orb รุ่นใหม่นี้ใช้ฮาร์ดแวร์ของ Nvidia จะมีประสิทธิภาพและทรงพลังกว่ารุ่นก่อนหน้า “5 เท่า” โดยมีขนาดเล็กลงและมีชิ้นส่วนน้อยกว่า
บริษัทกล่าวอีกว่า Orb ใหม่จะวางจำหน่ายใน self-service kiosk ในบางตลาด
นอกจากนี้ World ยังประกาศอีกว่าเร็วๆ นี้ ผู้ใช้จะสามารถยืนยันตัวตนได้ผ่านวิธีการอื่นนอกเหนือจากฮาร์ดแวร์ Orb ของบริษัท โดยผ่านทางโปรแกรมที่เรียกว่า World ID Credentials ซึ่งบริษัทระบุว่าผู้ใช้ที่มีหนังสือเดินทางที่ออกโดยรัฐบาลและเปิดใช้งาน NFC จะสามารถยืนยันตัวตนบนแอป World ได้
การประกาศสำคัญอีกครั้งหนึ่งคือ World ID Deep Face ซึ่งเป็นบริการที่บริษัทอ้างว่าสามารถ “แก้ไขปัญหา Deepfakes ได้”
นอกจากนี้ ซอฟต์แวร์ของบริษัทสามารถนำไปใช้กับแอปใดๆ ก็ได้ที่สามารถอัพโหลดหรือสตรีมวิดีโอได้ เพื่อตรวจสอบว่าวิดีโอที่มีบุคคลที่ได้รับการยืนยันนั้นเป็นของจริงหรือเป็นของปลอมโดยใช้ AI
บริษัทได้ประกาศว่าจนถึงขณะนี้มีผู้ใช้สมัครใช้บริการแอป World มากถึง 15 ล้านราย และในจำนวนนี้ 7 ล้านรายได้รับการตรวจสอบแล้ว
อ้างอิง : cointelegraph.com
ภาพ axios.com