Tether ผู้ให้บริการสกุลเงินดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดในโลกซึ่งผูกกับดอลลาร์สหรัฐฯ มั่นใจในความสัมพันธ์กับรัฐบาลสหรัฐฯ โดยส่วนหนึ่งเป็นเพราะบริษัทถือหนี้สหรัฐฯ จำนวนมากเพื่อรองรับ Tether USDt
ท่ามกลางวันครบรอบ 10 ปีของ Tether USDt ที่ใกล้เข้ามา Cointelegraph ได้พูดคุยกับ Paolo Ardoino ซีอีโอของ Tether เกี่ยวกับสิ่งที่ช่วยให้ Tether กลายมาเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่สำคัญและทำกำไรได้มากที่สุดในอุตสาหกรรม
ซึ่งในการสัมภาษณ์ครั้งนี้ Ardoino ได้สนับสนุนการแข่งขันในตลาด stablecoin , เน้นย้ำถึงการที่ Tether มุ่งเน้นไปที่ประเทศกำลังพัฒนา , และพูดถึงการวางตำแหน่ง Tether ของตนเองในฐานะเพื่อนที่ดีของสหรัฐอเมริกา
ปัจจุบัน USDT มีตลาดมูลค่า 120,000 ล้านดอลลาร์ พร้อมกับ Tether ที่เป็นผู้เล่นหลักของอุตสาหกรรม โดยมีกำไรแซงหน้า BlackRock ในปี 2023
ซีอีโอ Ardoino เชื่อว่าสาเหตุหนึ่งที่ Tether USDt เติบโตอย่างรวดเร็วเป็นเพราะโมเดลของ USDT นั้นเรียบง่ายและเข้าใจได้สำหรับคนทั่วไป
“คุณส่งเงินดอลลาร์มาให้เรา เราก็ส่ง USDT จำนวนเท่ากันให้คุณ คุณส่งโทเค็น USDT กลับมา เราก็ส่งเงินดอลลาร์กลับไป จากนั้นเราก็ลงทุนเงินสำรองในตั๋วเงินคลังและสินทรัพย์ปลอดภัยอื่นๆ มันก็ง่ายๆ แค่นั้นเอง” ผู้บริหารอธิบาย
นอกเหนือจากความเรียบง่ายแล้ว Ardoino ยังเน้นย้ำถึงสองสิ่งสำคัญที่ช่วยให้ Tether เอาชนะคู่แข่งได้อย่างมีนัยสำคัญ โดยสิ่งหนึ่งก็คือ Tether ยังคงมุ่งเน้นไปที่ stablecoin ตลอด 10 ปีที่ผ่านมา โดยไม่เสียสมาธิกับแนวโน้มต่างๆ เช่น ICO ในปี 2017 หรือกระแสโทเค็น NFT ในปี 2021
“สิ่งที่ Tether ทำได้ดีมากก็คือการคิดค้นอุตสาหกรรม stablecoin และยังมุ่งเน้นไปที่การใช้งานและกรณีการใช้งานที่สำคัญที่สุดของ stablecoin เป็นอย่างมาก” Ardoino กล่าว
นอกจากนั้น เขาเชื่อว่าความสำเร็จที่ดีที่สุดอันดับสองของ Tether คือการเข้าใจที่ดีว่าใครต้องการ USDT มากที่สุด ซึ่งความต้องการ Stablecoin ที่ใหญ่ที่สุดไม่ได้มาจากประเทศที่พัฒนาแล้ว เช่น ยุโรปหรือสหรัฐอเมริกา แต่มาจากประเทศกำลังพัฒนา เช่น อาร์เจนตินา ตุรกี และเวียดนาม ซึ่งจำเป็นต้องเข้าถึงเงินดอลลาร์อยู่เสมอ
“นั่นคือสิ่งที่เราตระหนักได้ก่อนใครๆ นั่นก็คือ ผู้คนต้องการถือเงินดอลลาร์ ไม่ใช่เงินสด แต่ในรูปแบบดิจิทัล เพราะสะดวกกว่ามาก” ซีอีโอกล่าว เขากล่าวว่า:
“เราจำเป็นต้องอธิบายตัวเองอย่างชัดเจนมากขึ้น และโปร่งใสในทุกสิ่งที่เราทำ”
แม้จะเน้นไปที่ประเทศกำลังพัฒนามากขึ้น แต่ Tether ก็ไม่ได้มองข้ามความสัมพันธ์กับสหรัฐอเมริกา ตามที่ Ardoino กล่าว Tether มี “ความสัมพันธ์ที่ดีมาก” กับรัฐบาลสหรัฐอเมริกา ซึ่ง “ดีกว่า” คู่แข่งมาก เนื่องมาจากความพยายามในการปฏิบัติตามกฎระเบียบกับหน่วยงานท้องถิ่น
“Tether เป็น stablecoin เพียงสกุลเดียวที่เข้ามาอยู่ในการควบคุมของสำนักงานสอบสวนกลาง (FBI) และหน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ” ซีอีโอของ Tether กล่าว และกล่าวว่าบริษัทมีหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย 180 แห่งใน 45 ประเทศอีกด้วย
Tether ยังวางตำแหน่งตัวเองเป็นเพื่อนที่ดีของสหรัฐฯ เนื่องจากถือพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ มูลค่าประมาณ 98,000 ล้านดอลลาร์ ทำให้เป็นผู้ถือพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ รายใหญ่ที่สุดในโลก
อ้างอิง : cointelegraph.com
ภาพ cryptoslate.com
