อุตสาหกรรมคริปโตฯ สูญเสียเงินไป 413 ล้านดอลล่าร์ในไตรมาสที่ 3 เนื่องจากการแฮ็กและการฉ้อโกง ตามรายงานล่าสุดจาก Immunefi แพลตฟอร์มบริการรักษาความปลอดภัย web3
การสูญเสียดังกล่าวลดลง 28% จากมูลค่า 573 ล้านดอลล่าร์ที่ถูกโจมตีในไตรมาสที่ 2 และลดลง 40% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 3 ปี 2023 ซึ่งแฮ็กเกอร์และผู้ฉ้อโกงขโมยเงินไป 686 ล้านดอลล่าร์ ซึ่งจากข้อมูลของ Immunefi พบว่ามีการขโมยเงินไปแล้วมากกว่า 1.3 พันล้านดอลล่าร์จากการแฮ็กและการฉ้อโกงตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน ซึ่งลดลง 4% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว
จากข้อมูลของ DeFiLlama พบว่า ระบบการเงินแบบกระจายอำนาจยังคงเป็นเป้าหมายหลักของแฮ็กเกอร์ โดยคิดเป็น 31 ใน 34 เหตุการณ์ที่ Immunefi พบในไตรมาสที่ 3 อย่างไรก็ตาม ระบบการเงินแบบกระจายอำนาจได้รับผลกระทบหนักกว่าในแง่ของจำนวนเงินที่ถูกขโมย โดยคิดเป็น 74.8% (309 ล้านดอลลาร์) ของการสูญเสียในไตรมาสนี้ เมื่อเทียบกับ 25.2% (104 ล้านดอลลาร์) ของ DeFi
“เรากำลังเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับ DeFi มากขึ้น ขณะที่ CeFi ประสบเหตุการณ์น้อยลงแต่บ่อยครั้งก็มีผลกระทบร้ายแรงกว่า โดยมีเงินถูกขโมยไปหลายร้อยล้านดอลลาร์จากการโจมตีครั้งเดียว” Mitchell Amador ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ Immunefi กล่าว
“ใน CeFi ปัญหาโครงสร้างพื้นฐานที่ใหญ่ที่สุดคือการจัดการ private key ซึ่งจำเป็นต่อการรักษาการดูแลรักษาสินทรัพย์ดิจิทัลและจำเป็นต้องมีนโยบาย แนวทางปฏิบัติ และแผนฉุกเฉินในการจัดการที่เข้มงวด” เขากล่าวเสริม
การแฮ็กยังคงครองความสูญเสียในไตรมาสที่ 3 คิดเป็น 99.3% (409.9 ล้านดอลลาร์) ของความสูญเสียทั้งหมดจากเหตุการณ์ทั้งหมด 31 ครั้ง เมื่อเทียบกับกรณีการฉ้อโกง การหลอกลวง และการขโมยพรมซึ่งมีเพียง 0.7% (3.1 ล้านดอลลาร์) จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพียง 3 ครั้ง
Ethereum และ BNB Chain ยังคงเป็นเครือข่ายที่ถูกโจมตีมากที่สุดเช่นเดียวกับในไตรมาสที่ 2 โดย Ethereum ตกเป็นเป้าหมายการโจมตีรายบุคคลมากที่สุด โดยคิดเป็น 15 เหตุการณ์และสูญเสีย 44.1% ของเครือข่ายเป้าหมาย รองลงมาคือเหตุการณ์ของ BNB Chain จำนวน 8 เหตุการณ์ คิดเป็น 23.5% เหตุการณ์ที่เหลือคือ Base, Blast, Solana และ Arbitrum
อ้างอิง : theblock.co
