รายงานวันที่ 25 กันยายน จาก VanEck คาดการณ์ว่า Solana อาจไปถึง 330 ดอลลาร์และพุ่งขึ้นเป็น 50% ของมูลค่าตลาดปัจจุบันของ Ethereum
รายงานดังกล่าวระบุถึงปริมาณงานของ Solana ที่สามารถประมวลผลธุรกรรมได้นับพันรายการต่อวินาที (TPS) และสูงกว่า TPS ของ Ethereum ถึง 3,000% ซึ่งจำนวนผู้ใช้งานรายวันของ Solana สูงกว่า Ethereum ถึง 1,300% และค่าธรรมเนียมธุรกรรมถูกกว่าเกือบ 5 ล้านเปอร์เซ็นต์บนเครือข่าย Solana
ผู้เขียนรายงานโต้แย้งว่า ข้อได้เปรียบที่ชัดเจนของ Solana ในด้านความเร็วและประสิทธิภาพด้านต้นทุนทำให้บริษัทมีข้อได้เปรียบเหนือ Ethereum อย่างมากในด้านการชำระเงินและการโอนเงิน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Stablecoin ถือเป็นตัวขับเคลื่อนหลักของกิจกรรมทางการเงินแบบกระจายอำนาจที่สามารถใช้ประโยชน์ด้านการประมวลผลอันเหนือชั้นของ Solana เพื่อส่งต่อการประหยัดต้นทุนให้กับผู้ใช้
ผู้เขียนรายงานว่า นักลงทุนรายย่อยเริ่ม “ตื่นตัว” ขึ้นเรื่อยๆ ต่อศักยภาพของ Solana ที่จะท้าทาย Ethereum ในฐานะแพลตฟอร์ม smart contract และรู้สึกสับสนที่นักลงทุนสถาบันยังไม่ตระหนักถึงข้อดีของ Solana โดยรายงานได้ตั้งทฤษฎีว่าสาเหตุที่เป็นไปได้ของความล่าช้าในการยอมรับ Solana ของสถาบันอาจมาจากความลังเลที่จะเปลี่ยนจากสินทรัพย์ระดับบลูชิปอย่าง ETH มาใช้ Solana ซึ่งมีอายุน้อยกว่ามาก
VanEck ยังกล่าวถึงการเปลี่ยนแปลงของผู้ใช้ไปยังเครือข่ายเลเยอร์ 1 ที่เร็วกว่า เช่น Solana และ Sui ( SUI ) ซึ่งเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ทำให้ราคาและรายได้จากธุรกรรมของ Ethereum ลดลง แม้ Ethereum ยังคงได้เปรียบจากการเป็นผู้บุกเบิกตามรายงานของ VanEck แต่ข้อได้เปรียบนั้นกำลังลดลงอย่างรวดเร็ว
อ้างอิง : cointelegraph.com
ภาพ marca.com