ราคา Bitcoin อาจเผชิญแรงกดดันขาลงเพิ่มเติมก่อนการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ ในวันที่ 18 กันยายน แต่ราคาจะลดลงต่ำกว่า 50,000 ดอลลาร์ในสุดสัปดาห์นี้หรือไม่? เนื่องจากกลุ่มวาฬ ยังคงมองหาช่องทางที่จะทำกำไร
ที่อยู่วาฬรายหนึ่งได้ขาย BTC จำนวน 100 BTC มูลค่ากว่า 5.3 ล้านดอลลาร์ เพื่อกำไรกว่า 206,000 ดอลลาร์
หลังจากนั้น ก็มีการซื้อ BTC จำนวนรวม 402,000 BTC มูลค่ารวมกว่า 21,000 ล้านดอลลาร์ โดยที่อยู่ดังกล่าวน่าจะต้องการขายเมื่อถึงจุดคุ้มทุนตามโพสต์ X เมื่อวันที่ 7 กันยายน โดยบริษัท Lookonchain
“มีที่อยู่ 836,000 รายการ ได้ซื้อไปประมาณ 402,800 BTC (21 พันล้านดอลลาร์) ในราคาระหว่าง 51,113 ดอลลาร์ถึง 54,303 ดอลลาร์ และที่อยู่เหล่านี้มีแนวโน้มที่จะขายเมื่อถึงจุดคุ้มทุน”
วาฬสามารถส่งผลกระทบอย่างมากต่อการเคลื่อนไหวของราคาสกุลเงินดิจิทัลเนื่องจากมีเงินทุนจำนวนมากที่เคลื่อนไหวในตลาด โดยผู้ซื้อขายควรจะติดตามการเคลื่อนไหวของวาฬเหล่านั้นเพื่อรับทราบแนวโน้มราคาในระยะสั้นของสกุลเงินดิจิทัล
นักวิเคราะห์ของ Bitfinex เตือนว่า ราคาอาจปรับตัวลดลงต่ำกว่า 50,000 ดอลลาร์ก่อนที่ราคาจะพุ่งขึ้น
“นี่ไม่ใช่ตัวเลขที่กำหนดขึ้นโดยพลการ แต่อิงจากข้อเท็จจริงที่ว่าจุดสูงสุดของรอบในแง่ของผลตอบแทนเป็นเปอร์เซ็นต์ลดลงประมาณ 60%–70% ในแต่ละรอบ และการปรับฐานของตลาดกระทิงโดยเฉลี่ยก็ลดลงเช่นกัน””
นอกจากนี้ Galaxy Digital ยังได้ฝาก BTC มูลค่า 78.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ใน Coinbase Prime เมื่อวันที่ 7 กันยายน ซึ่งทำให้ผู้ลงทุนเกิดความกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับแรงกดดันในการขายที่เพิ่มขึ้น ตาม ที่ Lookonchain ระบุ
ราคา Bitcoin น่าจะเผชิญกับแรงกดดันขาลงมากขึ้นก่อนที่จะมีการตัดสินใจเรื่องอัตราดอกเบี้ยในวันที่ 18 กันยายน ตามที่ Alvin Kan ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของ Bitget Wallet กล่าว Kan บอก
“เราคาดว่า BTC และตลาดหุ้นจะเผชิญกับแรงกดดันขาลงก่อนการประกาศลดอัตราดอกเบี้ยอย่างเป็นทางการของเฟด เมื่อได้รับการยืนยันการลดอัตราดอกเบี้ยหลังการประชุม FOMC ในเดือนกันยายน เราอาจเห็นสินทรัพย์เสี่ยงเพิ่มขึ้นในระยะสั้นถึงระยะกลาง”
อ้างอิง : cointelegraph.com
ภาพ newsbtc.com
