HashKey Group ผู้ให้บริการสินทรัพย์ดิจิทัลในเอเชีย ได้ประกาศความร่วมมือกับ Kaia หรือที่เดิมเรียกว่า Klaytn โดยมีเป้าหมายเพื่อเร่งการนำเทคโนโลยี Web3 มาใช้ในตลาดเอเชียและทั่วโลก
ความร่วมมือจะมุ่งเน้นไปที่การเงินดิจิทัล , การสร้างเนื้อหาและความปลอดภัย , และเกิดขึ้นพร้อมกับการควบรวมกิจการระหว่าง Kaia และ Finschia ซึ่งได้รับการอนุมัติครั้งแรกเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์
Finschia เป็นแพลตฟอร์มบล็อคเชนที่พัฒนาโดย Line Tech Plus ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ Line โดย Line Tech Plus มุ่งเน้นที่การให้บริการดิจิทัลแก่ฐานผู้ใช้ของ Line เป็นหลัก
รายละเอียดความร่วมมือ
ความร่วมมือนี้มุ่งหวังที่จะส่งเสริมแผนงานในตลาดดิจิทัลของเอเชีย และสนับสนุนการควบรวมกิจการระหว่าง Kaia–Finschia เพื่อสร้าง “แพลตฟอร์มการกำกับดูแล Web3 ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย”
“การบูรณาการนี้มีเป้าหมายเพื่อสร้างระบบนิเวศเมนเน็ตที่มีการแข่งขันสูงโดยการรวมจุดแข็งของ Klaytn และ Finschia […] และจะทำงานร่วมกับพันธมิตรเช่น Kakao และ LINE เพื่อขับเคลื่อนการขยายระบบนิเวศ”
Ben El-Baz กรรมการผู้จัดการของ HashKey Global กล่าวว่าความร่วมมือครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึง “วิสัยทัศน์ร่วมกัน” ในการทำงานเพื่อมุ่งสู่การสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ และ “การพัฒนาระบบนิเวศของสินทรัพย์ดิจิทัล”
El-Baz อธิบายว่า “บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของเอเชียจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ รวมถึง Kakao และ Line” ได้ลงทุนเพิ่มมากขึ้นใน Web3
“ด้วยเหตุนี้ ชุมชนบล็อคเชนของเอเชียจึงพร้อมที่จะกลับมายึดตำแหน่งผู้นำบนเวทีโลกอีกครั้ง”
เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม Kaia ได้เปิดตัวเมนเน็ตเพื่อให้บริการแอปพลิเคชันที่คล้ายกับ Telegram บนแพลตฟอร์มการส่งข้อความอย่าง Line
อ้างอิง : cointelegraph.com
ภาพ group.hashkey.com