กองทุน ETF คริปโตของฮ่องกง เผชิญกับอุปสรรคเชิงระบบซึ่งตลาดขาดแรงจูงใจในการลงทุนใน ETF โดยทั่วไป ตามที่ Gary Tiu กรรมการบริหารและหัวหน้าฝ่ายกิจการกำกับดูแลของ OSL ซึ่งเป็นศูนย์ซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลของฮ่องกง กล่าวระหว่างการอภิปรายกลุ่มในงานประชุม Foresight 2024 เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
“ในฮ่องกง โดยเฉพาะเมื่อเป็นเรื่องของกองทุนและผลิตภัณฑ์ที่มีโครงสร้าง โดยทั่วไปจะอยู่ระหว่างผู้ออกหลักทรัพย์และนักลงทุนปลายทาง ซึ่งมีตัวกลางจำนวนมาก เช่น นายหน้า , ธนาคาร , ธนาคารเอกชน , ธนาคารเพื่อรายย่อย ฯลฯ”
“ตัวกลางเหล่านี้ทำเงินได้มากจากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ทางการเงิน”
Tiu กล่าวว่าสิ่งนี้ทำให้ตลาดฮ่องกงให้ความสำคัญกับผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้จดทะเบียนในตลาด ในขณะที่ ETF อนุญาตให้ใครก็ตามทำการซื้อขายในตลาดได้ ดังนั้น ETF จึงให้แรงจูงใจเพียงเล็กน้อยสำหรับนายหน้าซื้อขายหุ้น โดยคิดค่าคอมมิชชันซึ่งเท่ากับ 1% ถึง 2% ของค่าคอมมิชชันที่ได้จากการขายผลิตภัณฑ์ที่มีโครงสร้าง Tiu กล่าว
“ดังนั้น ผมคิดว่าระบบจูงใจในฮ่องกงเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้ ETF เติบโตได้ยากในฐานะเครื่องมือทางการเงิน” ผู้อำนวยการของ OSL กล่าวแสดงความคิดเห็น
นอกจากนี้ Tiu ยังกล่าวอีกว่าฮ่องกงยังคงมีอคติเชิงลบต่อ Bitcoin, Ether และสกุลเงินดิจิทัลโดยทั่วไปอีกด้วย
“ผมคิดว่ายังคงมีอคติเล็กน้อยในสายตาของหน่วยงานกำกับดูแลและในสายตาของสถาบันทางการเงินด้วย ที่ว่า Bitcoin ETF ถือเป็นความเสี่ยงที่คุณจำเป็นต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ” Tiu กล่าว
Chen Zhao ผู้อำนวยการฝ่ายสินทรัพย์ดิจิทัลของ Fosun Wealth กล่าวเสริมว่า กองทุน ETF คริปโตของฮ่องกงยังขาด dealer และ broker อีกด้วย โดยผู้เข้าร่วมตลาดในฮ่องกงแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มหลัก ได้แก่ สถาบันตะวันตก สถาบันในจีน และสถาบันในฮ่องกง
“dealer และ broker ชาวจีนไม่ได้รับอนุญาตหรือเลือกที่จะไม่ทำธุรกรรมกับผลิตภัณฑ์” Chen Zhao กล่าว “และสำหรับสถาบันการเงินทางตะวันตก พวกเขาไม่จำเป็นต้องทำธุรกรรมกับผลิตภัณฑ์นี้ เนื่องจากพวกเขาได้รับค่าธรรมเนียมและแรงจูงใจมากกว่า และสามารถเข้าถึงกองทุน ETF ของสหรัฐฯ ได้ง่ายกว่า”
ผู้เข้าร่วมที่เหลือจากฮ่องกงนั้นมีขนาดเล็กมากเมื่อเทียบกับกลุ่มผู้เข้าร่วมสองกลุ่มหลัก ซึ่งเป็นข้อจำกัดสำคัญต่อการเติบโตของ ETF คริปโตของฮ่องกง ตามที่ Zhao กล่าว
ตามข้อมูลจาก SoSoValue กองทุน spot bitcoin ETF และ ether ETF ของฮ่องกงมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิรวมประมาณ 310 ล้านดอลลาร์ตั้งแต่วันที่ 30 เมษายน และมีปริมาณการซื้อขายรายวันประมาณ 2.8 ล้านดอลลาร์
อ้างอิง : theblock.co
