VanEck บริษัทจัดการการลงทุน คาดการณ์ว่า Bitcoin อาจพุ่งแตะระดับมูลค่าตลาดรวม 61 ล้านล้านดอลลาร์ หรือราว 2.9 ล้านดอลลาร์ (105 ล้านบาท) ต่อเหรียญ ในปี 2050 เนื่องมาจากความต้องการที่มีจำนวนมหาศาลเพื่อใช้เป็นหลักประกันในการชำระเงินทางการค้าและเป็นเงินสำรองสำหรับธนาคารกลาง ตามรายงานเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม
VanEck กล่าวในรายงานว่า “เป็นไปได้ที่ภายในปี 2050 Bitcoin อาจถูกใช้เพื่อชำระการค้าระหว่างประเทศ 10% ของโลกและการค้าภายในประเทศ 5% ของโลก โดยสถานการณ์ดังกล่าวจะส่งผลให้ธนาคารกลางถือสินทรัพย์ 2.5% ของตนเป็น BTC”
VanEck ยังเสริมอีกว่า โซลูชันการปรับขนาดสำหรับเครือข่ายบล็อคเชนของ Bitcoin อย่าง — Bitcoin layer 2 (L2) — อาจมีมูลค่ารวมกันประมาณ 7.6 ล้านล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็นประมาณ 12% ของมูลค่าทั้งหมดของ BTC
“สิ่งสำคัญคือ เราเชื่อว่าปัญหาด้านการปรับขนาด Bitcoin ซึ่งเป็นอุปสรรคหลักต่อการนำมาใช้ในวงกว้าง จะได้รับการแก้ไขด้วยโซลูชัน Bitcoin Layer-2 (L2) ที่เกิดขึ้นใหม่” ตามรายงานระบุ
การพุ่งขึ้นของ BTC ส่วนหนึ่งเกิดจากการที่เศรษฐกิจชั้นนำของโลก เช่น สหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป และญี่ปุ่น ถดถอยลงเมื่อเทียบกับกิจกรรมทางเศรษฐกิจทั่วโลก นอกจากนี้ VanEck ยังคาดการณ์ว่าความเชื่อมั่นในสกุลเงินของประเทศเหล่านี้จะลดลงอันเป็นผลจากการใช้จ่ายเกินดุลที่ไม่ถูกควบคุม
รายงานระบุว่า “ในสภาพแวดล้อมที่ไม่แน่นอนเช่นนี้ ธุรกิจและผู้บริโภคทั่วโลกน่าจะตระหนักถึงข้อบกพร่องของสกุลเงิน Fiat และจะทำให้เกิดความต้องการสื่อกลางแลกเปลี่ยนที่เป็นกลาง และมีสิทธิในทรัพย์สินที่ไม่เปลี่ยนแปลงและนโยบายการเงินที่คาดเดาได้ นี่คือที่มาของ Bitcoin”
VanEck กล่าวถึงการใช้เงินยูโรและเงินเยนของญี่ปุ่นที่ลดลงในการชำระเงินระหว่างประเทศโดยเฉพาะว่าเป็นโอกาสในการใช้ BTC มากขึ้น โดยรายงานระบุว่าสัดส่วนของเงินยูโรในการชำระเงินข้ามพรมแดนลดลงจากประมาณ 22% ในช่วงกลางทศวรรษ 2000 เหลือเพียง 14.5% ในปัจจุบัน โดยเสริมว่าเงินเยนลดลงจากประมาณ 6.2% เหลือ 5.4% ในช่วงเวลาเดียวกัน
แม้ว่าทองคำจะมีประวัติที่ได้รับการยอมรับอย่างดีในฐานะสินทรัพย์สำรองระดับโลก แต่ VanEck กล่าวว่าข้อจำกัดที่เกี่ยวข้องกับการขนส่ง ความปลอดภัย และการบูรณาการทางการเงินเป็นอุปสรรคต่อการกลับไปสู่มาตรฐานทองคำ
นอกจากนี้ VanEck กล่าวว่ายังเร็วเกินไปที่จะประกาศผู้ชนะในกลุ่ม Bitcoin L2 แต่ก็ระบุถึงโครงการที่มี “ศักยภาพสูง” จำนวน 16 โครงการ รวมถึง Lightning Network และ Stacks
อ้างอิง : cointelegraph.com
ภาพ moneytimes.com.br