หลังจากหลายปีของการผลักดันด้านกฎระเบียบและการแก้ไขการลงทะเบียนนับไม่ถ้วน Spot Ethereum ETF กำลังจะได้เปิดตัวในวันที่ 23 กรกฎาคม ซึ่งจะถือเป็นช่วงเวลาสำคัญสำหรับตลาดสกุลเงินดิจิทัล และเป็นโอกาสสำหรับนักลงทุนสถาบันและนักลงทุนรายย่อยของสหรัฐฯ หลายล้านคน และนี่คือสิ่งที่คุณจำเป็นต้องรู้เพื่อประโยชน์สูงสุด
Ether ETF จะพร้อมใช้งานเมื่อใด?
Chicago Board Options Exchange (CBOE) ยืนยัน “วันที่ 23 กรกฎาคม” เป็นวันเปิดตัว ETF ทั้ง 5 รายการที่กำหนดให้ซื้อขายบนแพลตฟอร์มของตน ได้แก่ 21Shares Core Ethereum ETF, Fidelity Ethereum Fund, Invesco Galaxy Ethereum ETF, VanEck Ethereum ETF และ Franklin Ethereum ETF
ส่วนอีก 4 แห่งจะซื้อขายบน Nasdaq หรือ New York Stock Exchange (NYSE) Arca และแม้ว่าจะยังไม่มีการประกาศอย่างเป็นทางการจากตลาดหลักทรัพย์ทั้งสองแห่ง แต่คาดว่าจะจดทะเบียนในวันที่ 23 กรกฎาคมเช่นกัน
ซื้อ Ethereum ETF ได้จากที่ไหน
คำตอบสั้นๆ คือแทบทุกแพลตฟอร์มโบรกเกอร์หลัก ๆ โดย ETH ETF ทุกตัวเตรียมจะจดทะเบียนหลังจากได้รับการอนุมัติจากหน่วยงานกำกับดูแลให้ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์หลักอย่างน้อยหนึ่งแห่งของสหรัฐฯ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Nasdaq, New York Stock Exchange (NYSE) Arca หรือ Cboe BZX
นักลงทุนทั่วไปไม่ได้ซื้อขายโดยตรงบนตลาดเหล่านี้ จำเป็นต้องพึ่งพาแพลตฟอร์มนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ เช่น Fidelity, E*TRADE, Robinhood, Charles Schwab และ TD Ameritrade เป็นตัวกลาง
ซึ่งเมื่อหุ้น ETH ETF จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แล้ว คาดว่าโบรกเกอร์ชื่อดังทั้งหมด รวมถึงรายอื่นๆ จะสามารถอำนวยความสะดวกในการซื้อขายได้
เราจะรู้ได้อย่างไรว่า Ethereum ETF ใดดีที่สุด
Ether ETF ทั้งเก้ากองทุนจะเริ่มซื้อขายโดยกลไกพื้นฐานนั้นแทบจะเหมือนกันทุกประการ ซึ่งสำหรับนักลงทุนส่วนใหญ่ ปัจจัยในการตัดสินใจคือค่าธรรมเนียม โดย ETF ทั้งแปดในเก้ากองทุน มีค่าธรรมเนียมการจัดการอยู่ระหว่าง 0.15% ถึง 0.25% และมีข้อยกเว้นที่สำคัญประการหนึ่งคือ Grayscale Ethereum Trust (ETHE) ซึ่งเริ่มซื้อขายภายใต้โครงสร้างกองทุนที่แตกต่างกันในปี 2017 และยังคงเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการจัดการที่ 2.5%
Ethereum ETF ส่วนใหญ่ — แต่ไม่ใช่ทั้งหมด — มีการยกเว้นหรือลดค่าธรรมเนียมชั่วคราวเพื่อดึงดูดนักลงทุน ซึ่ง Greyscale Ethereum Trust ก็เป็นอีกหนึ่งกองทุนที่โดดเด่นในกองทุนนี้ เช่นเดียวกับ Invesco Galaxy Ethereum ETF (QETH)
ขณะที่ Grayscale Ethereum Mini Trust (ETH) ซึ่งเป็นกองทุนใหม่ที่สร้างขึ้นโดยเฉพาะ มีค่าธรรมเนียมการจัดการเพียง 0.15% เท่านั้น และค่าธรรมเนียมเหล่านี้จะได้รับการยกเว้นทั้งหมดในช่วงหกเดือนแรกหลังจากจดทะเบียน หรือจนกว่ากองทุนจะมีสินทรัพย์ภายใต้การจัดการ (AUM) ถึง 2 พันล้านดอลลาร์
อีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจคือ Franklin Ethereum ETF (EZET) ของ Franklin Templeton มีค่าธรรมเนียมการจัดการอยู่ที่ 0.19% ซึ่งต่ำเป็นอันดับสองในกลุ่มและได้รับการยกเว้นค่าธรรมเนียมทั้งหมดจนถึงเดือนมกราคม 2025 หรือจนกว่ากองทุนจะมีสินทรัพย์ภายใต้การบริหาร 10,000 ล้านดอลลาร์
ETF ของ Ether จะนำเสนอการ staking หรือไม่?
คำตอบสั้นๆ คือ “ไม่” ส่วนคำตอบยาวๆ คือ “อาจจะใช่ แต่ไม่ใช่เร็วๆ นี้”
การ staking เกี่ยวข้องกับการฝาก ETH ลงใน validator node บน Beacon Chain ของ Ethereum และจะได้รับส่วนแบ่งจากค่าธรรมเนียมเครือข่ายและรางวัลอื่นๆ แต่ก็มีความเสี่ยงที่จะ “ลด” หรือสูญเสียหลักประกันที่ staking ไว้ หาก validator ประพฤติตัวไม่เหมาะสมหรือล้มเหลว
การ staking นั้นน่าสนใจเพราะช่วยเพิ่มผลตอบแทนได้อย่างมาก โดยอัตราผลตอบแทนประจำปีอยู่ที่ประมาณ 3.7% ณ วันที่ 19 กรกฎาคม ตามข้อมูลจาก StakingRewards.com
เมื่อต้นปีนี้ ผู้ออกหลักทรัพย์หลายราย รวมถึง Fidelity, BlackRock และ Franklin Templeton ได้ขออนุมัติจากหน่วยงานกำกับดูแลเพื่อเพิ่มการ staking ลงในกองทุน แต่ SEC ปฏิเสธคำขอดังกล่าว
โดยประเด็นที่โดนปฏิเสธนั้นสรุปได้ว่าเป็นเรื่องของสภาพคล่อง เนื่องจากการถอน ETH จากการ staking มักจะใช้เวลาหลายวันในการถอนออกจากเครือข่าย Beacon และนั่นเป็นปัญหาสำหรับผู้ออกหลักทรัพย์ ซึ่งจำเป็นต้องแลกหุ้น ETF เป็นสินทรัพย์ของกองทุนทันทีเมื่อได้รับการร้องขอ
ปัจจุบันผู้ออกหลักทรัพย์ยังคงค้นหาวิธีเพิ่มการ staking ให้กับกลุ่ม ETH ETF ที่มีอยู่ในปัจจุบัน โดยอาจทำได้โดยการเพิ่ม “บัฟเฟอร์” ของ Ether ที่มีสภาพคล่อง แต่แผนปฏิบัติการที่เป็นรูปธรรมนั้นยังต้องใช้เวลาหลายเดือนกว่าจะเสร็จเรียบร้อย
อ้างอิง : cointelegraph.com
ภาพ en.bitcoinsistemi.com
