MegaLabs ผู้พัฒนา “MegaETH” ระดมทุน 20 ล้านดอลล่าร์ (736 ล้านบาท) จาก Dragonfly, Vitalik Buterin, Joseph Lubin

MegaLabs ผู้พัฒนาบล็อคเชนใหม่ที่เรียกว่า MegaETH ได้ระดมทุนได้ 20 ล้านดอลล่าร์ ในรอบการระดมทุนรอบ  seed จาก Dragonfly, Vitalik Buterin, Joseph Lubin และบริษัทอื่นๆ

MegaLabs เริ่มระดมทุนสำหรับรอบ Seed เมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว และปิดในเดือนพฤษภาคม

Dragonfly เป็นผู้นำในการระดมทุนรอบ Seed โดยมี Figment Capital, Robot Ventures, Big Brain Holdings และบริษัทอื่นๆ เข้าร่วม

Angel investors ที่ลงทุนในรอบนี้ได้แก่ Vitalik Buterin ผู้ร่วมก่อตั้ง Ethereum , Joseph Lubin ผู้ก่อตั้งและซีอีโอ ConsenSys, Sreeram Kannan ผู้ก่อตั้งและซีอีโอ EigenLayer, Kartik Talwar ผู้ร่วมก่อตั้ง ETHGlobal, Mert Mumtaz ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอของ Helius Labs, Santiago Santos, Hasu และ Jordan Fish หรือที่รู้จักในชื่อ Cobie ก็เข้าร่วมรอบนี้ด้วย

MegaLabs และบล็อคเชน MegaETH คืออะไร?

MegaLabs ก่อตั้งขึ้นเมื่อต้นปี 2023 โดย Shuyao Kong  อดีตหัวหน้าฝ่ายพัฒนาธุรกิจระดับโลกของ Consensys และ Yilong Li ผู้สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอกสาขาวิทยาการคอมพิวเตอร์จากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด และเคยทำงานที่บริษัทซอฟต์แวร์ Runtime Verification Inc. โดย Kong เสริมว่าเธอยังคงทำงานที่ Consensys ต่อไปในฐานะที่ปรึกษา

แนวคิดของบล็อกเชน MegaETH เกิดขึ้นเนื่องจาก บล็อกเชนที่เข้ากันได้กับ Ethereum virtual machine (EVM) ส่วนใหญ่สามารถทำธุรกรรมได้ 3 หลักต่อวินาที (TPS) เท่านั้น ในขณะที่ MegaETH ตั้งเป้าที่จะบรรลุ 100,000 TPS Kong กล่าว

MegaETH เรียกตัวเองว่าเป็น “บล็อคเชนแบบเรียลไทม์” ตัวแรกที่มีความเข้ากันได้กับ Ethereum เต็มรูปแบบ โดยเรียลไทม์ในที่นี้หมายถึง MegaETH สามารถประมวลผลธุรกรรมได้ทันทีที่ธุรกรรมมาถึง และเผยแพร่การอัปเดตที่เกิดขึ้นแบบเรียลไทม์” Kong กล่าว

“นอกจากนี้ ยังรองรับปริมาณธุรกรรมที่สูงและความสามารถในการประมวลผลที่มากพอสมควรเพื่อรักษาประสบการณ์แบบเรียลไทม์แม้ในช่วงที่ผู้ใช้มีความต้องการสูงสุด” เธอกล่าวเสริม

MegaETH ใช้ความปลอดภัยของ Ethereum , fault-proof ซึ่งเป็นระบบป้องกันข้อผิดพลาดของ Optimism และ sequencer ที่ได้รับการปรับปรุงของตัวเอง เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพแบบเรียลไทม์ ตามที่ Kong กล่าว

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เทคนิคหลักสองประการของ MegaETH ซึ่งได้แก่ สถาปัตยกรรมบล็อคเชนที่มีความหลากหลายและสภาพแวดล้อมการดำเนินการ EVM ที่ “มีการปรับให้เหมาะสมสูงสุด” ช่วยให้บรรลุ 100,000 TPS แบบเรียลไทม์ได้

“เทคนิคเหล่านี้แตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับสถาปัตยกรรมในปัจจุบัน ซึ่งสามารถใช้ความสามารถในการคำนวณของเซิร์ฟเวอร์ web2 สมัยใหม่ได้น้อยกว่า 1% เท่านั้น” เขากล่าวเสริม

Buterin กล่าวในแถลงการณ์เกี่ยวกับการลงทุนใน MegaLabs ว่า “การสร้างการใช้งาน EVM แบบ hyper-scalable ได้เป็นข้อกำหนดเบื้องต้นที่สำคัญสำหรับการ scaling Ethereum อย่างแท้จริง ผมตื่นเต้นที่ได้เห็นนักพัฒนาที่เก่งกาจรับมือกับความท้าทายนี้”

ไทม์ไลน์การเปิดตัว MegaETH

Kong กล่าวว่าเครือข่าย testnet สาธารณะของ MegaETH จะเปิดตัวในช่วงต้นฤดูใบไม้ร่วง โดยคาดว่า mainnet จะเปิดตัวได้ในช่วงปลายปีนี้ และเมื่อถูกถามว่า “โทเค็นดั้งเดิม” ของ MegaETH จะเปิดตัวพร้อมกับ mainnet หรือไม่ Kong กล่าวว่ายังไม่มีการตัดสินใจใด ๆ ในตอนนี้

Kong กล่าวว่า MegaLabs มีแผนที่จะสร้างบล็อคเชนต่อไป รวมถึงต้อนรับนักพัฒนา และขยายชุมชนของตนด้วยเงินทุนใหม่ที่เพิ่งได้รับ โดย MegaLabs ได้เปิดตัวโปรแกรมที่ชื่อว่า MegaMafia เมื่อไม่นานมานี้ เพื่อช่วยให้นักพัฒนาจากทั่วโลกสามารถร่วมสร้างกับทีมงาน MegaLabs และที่ปรึกษาได้

อ้างอิง : theblock.co

Share on facebook
Share on twitter
Share on linkedin

Radius

ผู้เชี่ยวชาญการเขียนข่าว บทความ ที่เกี่ยวข้องกับ Bitcoin , คริปโตเคอเรนซี่ และ Blockchain ทั้งในไทยและต่างประเทศ อัพเดทราคา มุมมองการลงทุน ใหม่ล่าสุดทุกวัน
ข่าวต่อไป

FOLLOW ME

Blockchain Life 2024

Crypto Coffee

Cryptomind Research Talk

CryptOmakase

ข่าวต่อไป