ร่างกฎหมายได้รับการแนะนำในสภาผู้แทนราษฎรแห่งสหรัฐอเมริกาเพื่อแบนบริการปกปิดธุรกรรมคริปโตเป็นเวลาสองปี โดยเรียกว่าพระราชบัญญัติความสมบูรณ์ของบล็อคเชน (Blockchain Integrity Act) ซึ่งได้รับการสนับสนุนโดยสมาชิกสภาคองเกรสจากพรรคเดโมแครต 5 คน นำโดย Sean Casten
Casten กำหนดว่าบริการปกปิดธุรกรรมคริปโต เป็นกลุ่มที่อนุญาตให้ผู้ใช้ “สร้างที่อยู่ใหม่และถอนเงินโดยไม่ต้องเปิดเผยความเชื่อมโยงระหว่างผู้ฝากและที่อยู่การถอน”
ร่างกฎหมายดังกล่าวจะห้ามสถาบันการเงิน , รวมถึงเว็บเทรดสกุลเงินดิจิทัล , ผู้ให้บริการสินทรัพย์ดิจิทัล , และธุรกิจบริการเงินที่จดทะเบียนอื่น ๆ จากการรับเงินมาจากบริการปกปิดธุรกรรมคริปโต หรืออนุญาตให้ถอนเงินโดยตรงไปยังที่อยู่ของบริการปกปิดธุรกรรม ซึ่งการละเมิดทุกครั้งจะมีโทษปรับทางแพ่งสูงสุด 100,000 ดอลลาร์
และในช่วงระยะเวลาสองปี กระทรวงการคลังสหรัฐจะรวบรวมรายงานที่มีรายละเอียดข้อมูลที่หลากหลาย โดยรายงานจะรวมเปอร์เซ็นต์โดยประมาณของธุรกรรมกับบริการปกปิดธุรกรรมคริปโตที่เกี่ยวข้องกับการเงินที่ผิดกฎหมาย , การใช้บริการปกปิดธุรกรรมคริปโตอย่างถูกกฎหมาย , ความสามารถของหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายในการติดตามหรือป้องกันธุรกรรม , และแนวทางด้านกฎระเบียบสำหรับบริการปกปิดธุรกรรมคริปโตที่ดำเนินการในประเทศอื่น ๆ
ผู้แทนบิล Bill Foster, Brad Sherman และ Emanuel Cleaver เป็นผู้สนับสนุนร่วมของร่างกฎหมายดังกล่าว ซึ่งยังไม่ได้เข้าร่วมเป็นคณะกรรมการ โดย Sherman ซึ่งมีประวัติยาวนานในฐานะคู่แข่งด้าน crypto โดยกล่าวว่า
“ความตั้งใจของ Cryptocurrency คือเป็นรูปแบบหนึ่งของ ‘เงินที่ซ่อนอยู่’ ของกลุ่มผู้ก่อการร้าย , ผู้หลบเลี่ยงการคว่ำบาตร , ผู้หลบเลี่ยงภาษี , อาชญากรไซเบอร์ ฯลฯ ซึ่งต่างก็ใช้บริการปกปิดธุรกรรมเพื่อปิดบังกิจกรรมที่ผิดกฎหมายของพวกเขา”
อ้างอิง : cointelegraph.com
ภาพ cryptoslate.com