Optimism เปิดตัวฟีเจอร์ Superchain ใหม่ สำหรับผู้พัฒนาเลเยอร์ 3

Optimism เตรียมจะยกระดับปริมาณงานบล็อกเชนของตนไปอีกขั้น ด้วยการเริ่มใช้งานแอปพลิเคชันเลเยอร์ 3 ที่ด้านบนของ OP Stack

ที่มา x.com/Optimism/

เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม ทีม Optimism กล่าวว่าพวกเขากำลังต้อนรับ เลเยอร์ 3 เข้าสู่ Superchain ซึ่งพวกเขาจะสามารถสร้างบน OP Stack และแบ่งปันรายได้กับ Optimism Collective

OP Stack เป็น standard codebase แบบเปิดที่ขับเคลื่อนการพัฒนาบน Superchain แต่ “ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ L2 chain Deployers และ App Builder” ทีมงานกล่าวก่อนเสริมว่า “มันยังสามารถใช้ประโยชน์จากระบบนิเวศของ L3 ได้ด้วย”

Optimism Superchain เป็นเครือข่ายของเลเยอร์ 2 หรือที่เรียกว่า OP Chains ซึ่งมีการแบ่งปันความปลอดภัย , communication layers , และเทคโนโลยีโอเพ่นซอร์ส

เลเยอร์ 3 จะสามารถเข้าถึงสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ เช่น การมีสิทธิ์ได้รับ retro funding , airdrops , และโปรแกรมการให้ทุนสำหรับนักพัฒนา แต่อาจมีข้อจำกัดในคุณสมบัติบางอย่าง เช่น การทำงานร่วมกัน

โปรโตคอลเลเยอร์ 3 ถูกสร้างขึ้นบนเลเยอร์ 2 เพื่อโฮสต์แอปพลิเคชันแบบกระจายอำนาจเฉพาะ โดยมอบโซลูชันที่ได้รับการปรับปรุงสำหรับการปรับขนาด , ประสิทธิภาพ , การทำงานร่วมกัน , การปรับแต่ง , และต้นทุน

เลเยอร์บล็อคเชน ที่มา: CoinGecko

คุณสมบัติหลักสองประการที่จะมาใน OP Stack เพื่อรองรับผู้สร้าง L3 — คือโทเค็น gas แบบกำหนดเอง และ “Plasma Mode”

โทเค็น gas แบบกำหนดเอง เป็นคุณสมบัติที่ได้รับการร้องขออย่างสูงในขั้นตอนสุดท้ายของการพัฒนา ช่วยให้นักพัฒนาสามารถใช้โทเค็นเลเยอร์ 2 เป็นโทเค็น gas ดั้งเดิมสำหรับโปรโตคอลเลเยอร์ 3 ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนในการเริ่มต้นใช้งาน เนื่องจากไม่จำเป็นต้องทำธุรกรรมที่มีค่าใช้จ่ายสูง โดยนำโทเค็น gas จาก L1 ไปเป็น L2 จากนั้นจึงเข้าสู่ L3

Plasma Mode เป็นอีกทางเลือกหนึ่งของชั้นความพร้อมใช้งานของข้อมูล ซึ่งสามารถลดต้นทุนค่าใช้จ่ายคงที่ในการใช้งาน L3 เมื่อเปรียบเทียบกับ L2 ซึ่งความพร้อมใช้งานของข้อมูลหมายถึงความสามารถของผู้เข้าร่วมเครือข่ายในการเข้าถึงและตรวจสอบข้อมูลที่จัดเก็บไว้ในบล็อกเชน

โดยเป้าหมายคือการทำให้นักพัฒนา Optimism Superchain เข้าถึงได้มากขึ้นโดยนำเสนอคุณสมบัติและฟังก์ชันการทำงานของเลเยอร์ 3

อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ทุกคนจะเชื่อว่า L3 คือหนทางสำหรับการปรับขนาด Ethereum เนื่องจากในเดือนเมษายน Marc Boiron ซีอีโอของ Polygon แย้งว่าเครือข่ายเลเยอร์ 3 นั้นไม่จำเป็น และเพิ่มความเสี่ยงด้านความปลอดภัยให้กับ Ethereum ได้จากการเก็บมูลค่าจากเครือข่าย

Rollup-based Optimism หรือ OP Mainnet เป็นเครือข่ายเลเยอร์ 2 ที่ใหญ่เป็นอันดับสอง โดยมีมูลค่ารวมอยู่ที่ 6.76 พันล้านดอลลาร์ และมีส่วนแบ่งการตลาดประมาณ 18% ตามข้อมูลของ L2beat

อ้างอิง : cointelegraph.com
ภาพ crypto-economy.com

Share on facebook
Share on twitter
Share on linkedin

Radius

ผู้เชี่ยวชาญการเขียนข่าว บทความ ที่เกี่ยวข้องกับ Bitcoin , คริปโตเคอเรนซี่ และ Blockchain ทั้งในไทยและต่างประเทศ อัพเดทราคา มุมมองการลงทุน ใหม่ล่าสุดทุกวัน
ข่าวต่อไป