Friend.tech แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียแบบกระจายอำนาจ กำลังเตรียมการเปิดตัวเวอร์ชัน 2 และ Airdrop ในวันที่ 3 พฤษภาคม แต่จาก smart contract ที่หลุดออกมาบ่งชี้ว่าอาจมีฟีเจอร์ที่ก่อให้เกิดข้อขัดแย้ง รวมถึงโทเค็นที่ไม่สามารถถ่ายโอนได้
“โทเค็นที่ไม่สามารถถ่ายโอนได้” อาจนำมาใช้พร้อมกับการ airdrop ตามที่นักวิจัยทางการเงินแบบกระจายอำนาจนามแฝง CBBOFE ระบุ
โทเค็นที่ไม่สามารถโอนได้หมายความว่าผู้รับ Airdrop จะไม่สามารถขายหรือแลกเปลี่ยนไปเป็นเหรียญอื่นได้ ยกเว้นที่อยู่โปรโตคอลที่ได้ whitelist บางแห่ง
Friend.tech ทำให้โทเค็นไม่สามารถถ่ายโอนได้ เพื่อให้ผู้ใช้ต้องจ่ายค่าธรรมเนียม 1.5% ตามที่ Kasper Vandeloock นักเทรดและที่ปรึกษาของเว็บเทรด X10 ยืนยัน
“ถ้าคุณไม่สามารถโอนได้ คุณจะถูกบังคับให้ขายผ่านพวกเขา ซึ่งมีค่าธรรมเนียม 1.5% […] ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าขัน เพราะพวกเค้าทำตัวต่อต้าน VC ในขณะที่หาทางฟันกำไรซะเอง”
โทเค็น POINTS จะทำหน้าที่เป็นโทเค็นยูทิลิตี้ที่ช่วยให้สามารถสร้าง social clubs บนแพลตฟอร์ม ซึ่งอาจมีค่าธรรมเนียมแพลตฟอร์ม 1.5%
โทเค็นที่ไม่สามารถโอนได้ ช่วยลดแรงขายได้
แม้ว่าโทเค็นที่ไม่สามารถโอนได้จะก่อให้เกิดความโกรธเคืองต่อชุมชนอย่างมาก แต่ก็อาจเป็นประโยชน์ต่อการเคลื่อนไหวของราคาในระยะยาวของสกุลเงินดิจิทัล เนื่องจากปกติแล้วราคาโทเค็นมีแนวโน้มที่จะลดลงอย่างมากหลังจากการ Airdrops
เมื่อปลายเดือนเมษายน โทเค็น OMNI ของ Omni Network ราคาลดลง 55% ในเวลาไม่ถึง 18 ชั่วโมงหลังจากการ Airdrops ทำให้สูญเสียมูลค่าตลาดไปมากกว่าครึ่งหนึ่ง
โทเค็น W ของ Wormhole ก็เป็นอีกตัวอย่างหนึ่ง ซึ่งมีมูลค่าลดลงเกือบ 25% เพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากการ Airdrops โดยในวันที่ 3 เมษายน ราคาโทเค็นลดลงมากกว่า 47% นับตั้งแต่มีการ Airdrop ตามข้อมูลจาก CoinMarketCap
การแจก Airdrops นั้นมักจะเต็มไปด้วยนักล่า airdrop มืออาชีพ ที่มาพร้อมด้วยกระเป๋าเงินดิจิตอลหลายใบ และส่วนใหญ่ไม่มีความตั้งใจที่จะใช้โปรโตคอลในระยะยาว และมักเทขายทันทีหลังจากเคลม Airdrops
อ้างอิง : cointelegraph.com
ภาพ crypto-economy.com
