วาฬ Bitcoin คืออะไร ? และจะหาพวกเค้าเจอได้อย่างไร ?

วาฬ Bitcoin (Bitcoin whales) คือบุคคลหรือองค์กรที่มี Bitcoin จำนวนมาก ซึ่งการถือครองของพวกเค้าเหล่านั้นสามารถสั่นคลอนหรือมีอิทธิพลต่อตลาดได้ผ่านกลยุทธ์การซื้อขายของพวกเขา

วาฬ Bitcoin คืออะไร?

คำว่า “วาฬ Bitcoin” ถูกใช้เรียกขานถึงผู้ถือที่มีสัดส่วนการถือครองที่สำคัญ เมื่อเทียบกับคนอื่น ๆ ที่มีขนาดเล็ก ซึ่งมักเรียกกันว่า “ปลาตัวเล็ก” ในตลาด โดยเจ้าของกระเป๋าเงินอาจควบคุมโดยหน่วยงานหนึ่งอาจเป็นบุคคลหรือกลุ่มบุคคลมีเงินทุนเพื่อลงทุนขนาดใหญ่

การถือครองอันมหาศาลของพวกเขาได้รับการสะสมผ่านการขุด , การลงทุนในช่วงเริ่มแรก , และวิธีการอื่น ๆ โดย Whales สามารถเข้าถึงการถือครอง Bitcoin จำนวนมาก ซึ่งทำให้พวกเขามีอำนาจในการควบคุมตลาดโดยการซื้อหรือขายสินทรัพย์จำนวนมากซึ่งส่งผลให้เกิดความผันผวนของราคา

ต้องมีเท่าไหร่ถึงจะถือเป็น วาฬ Bitcoin?

บุคคลหรือองค์กรจะถือว่าเป็น “วาฬ Bitcoin” ได้ พวกเขาต้องมี Bitcoin ในปริมาณที่เยอะจนมีนัยสำคัญ อย่างไรก็ตาม มันก็ไม่ได้มีการกำหนดเกณฑ์สำหรับการจำแนกประเภทออกมาแบบชัดเจนอะไร ซึ่งมาตรฐานที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางสำหรับการพิจารณาว่าเป็นวาฬ Bitcoin นั้นมักอยู่ที่ 1,000 BTC++ ซึ่งโดยทั่วไปเกณฑ์นี้จะถูกอ้างอิงโดยบริษัทวิเคราะห์สกุลเงินดิจิทัล เช่น Glassnode โดยใช้ระบุกระเป๋าที่มี Bitcoin ขั้นต่ำ 1,000 Bitcoin

ณ เดือนมีนาคม 2024 การกระจายการเป็นเจ้าของ Bitcoin มีความเข้มข้นสูง โดยมีที่อยู่ Bitcoin เพียงสามแห่งเท่านั้นที่ถือครองระหว่าง 100,000 ถึง 1 ล้าน BTC รวมเป็น 577,502 BTC โดยเจ้าของรายใหญ่ที่สุด 108 รายถัดไปมียอดรวม 2,437,765 BTC โดยแต่ละรายถือครองตั้งแต่ 10,000 ถึง 100,000 BTC และที่อยู่ที่ร่ำรวยที่สุด 111 แห่งเหล่านี้รวมกันคิดเป็นประมาณ 15.34% ของอุปทาน Bitcoin ทั้งหมด

เหตุใด วาฬ Bitcoin จึงมีอิทธิพลต่อตลาด?

วาฬ มักมีอิทธิพลอย่างมากต่อการเปลี่ยนแปลงของตลาด เนื่องจากการถือครองจำนวนมหาศาลของพวกเขาทำให้พวกเขามีอำนาจในการควบคุมอุปสงค์และอุปทานของ Bitcoin และทำให้เกิดความผันผวนของราคาจากการซื้อขายของพวกเขา โดยเมื่อวาฬมีการซื้อเพิ่ม Bitcoin ของพวกเขา ราคาก็มีแนวโน้มที่จะพุ่งสูงขึ้น ในขณะที่หากมีการขายบางส่วนที่ถือครองออกไปก็อาจทำให้ราคาลดลงได้

ด้วยการถือครอง cryptocurrencies จำนวนมาก วาฬ crypto สามารถสร้างความขาดแคลน , ผลักดันความต้องการ , และมูลค่าให้สูงขึ้น ซึ่งการทำธุรกรรมขนาดใหญ่โดยวาฬ อาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงราคาอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งเป็นแนวทางในการดำเนินการของเทรดเดอร์รายอื่น

กระเป๋าสตางค์ของวาฬนั้นมักโดนติดตามโดยชุมชน เป็นผลให้การตัดสินใจซื้อขายหรือการเคลื่อนไหวต่าง ๆ สามารถกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงราคาที่สำคัญได้

วาฬ Bitcoin บางรายก็มักเลือกใช้การซื้อขาย crypto แบบ OTC เพื่อลดผลกระทบต่อราคา ในขณะที่บางรายก็ใช้ประโยชน์จากเว็บเทรดเพื่อควบคุมตลาดโดยส่งสัญญาณการซื้อหรือขายจำนวนมาก

วาฬ Bitcoin ใช้กลยุทธ์การซื้อขายแบบใด?

การจัดการตลาด

วาฬ Bitcoin รายใหญ่ มักมีส่วนร่วมในแผนการ pump-and-dump ซึ่งเกี่ยวข้องกับการซื้อ Bitcoin จำนวนมาก ๆ ในคราวเดียวเพื่อเพิ่มราคาและขายทำกำไร ส่งผลให้นักลงทุนรายอื่นขาดทุน

นอกจากนี้ พวกเขาอาจมีข่าวลือบนโซเชียลมีเดียเพื่อเพิ่มความสนใจและผลักดันราคาเพื่อดึงดูดนักลงทุนรายย่อยให้เข้าร่วม และในที่สุดวาฬ Bitcoin ก็เทขาย ซึ่งทำให้ราคาลดลงและขาดทุนสำหรับนักลงทุนรายย่อย

การสะสม

วาฬสามารถค่อย ๆ สะสม Bitcoin ได้โดยการคำนวณการซื้อในราคาต่ำหรือในช่วงที่ตลาดตกต่ำ และเมื่อเวลาผ่านไป พวกเขาก็เพิ่มการถือครอง Bitcoin โดยการใช้ประโยชน์จากโอกาสในการซื้อ Bitcoin จำนวนมากในราคาที่ได้เปรียบ

การถือครองระยะยาว

ด้วยการถือครอง Bitcoin ไว้เป็นระยะเวลานาน เหล่าวาฬสามารถป้องกันตัวเองจากภาวะเงินเฟ้อ หรือได้ผลกำไรจากมูลค่าของ Bitcoin ที่อาจเพิ่มขึ้นในระยะยาว

การกระจายความเสี่ยง

นอกเหนือจาก Bitcoin แล้ว วาฬบางตัวยังมีการกระจายการถือครองสกุลเงินดิจิทัลของตนโดยการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลอื่น ๆ เพื่อกระจายความเสี่ยงและทำกำไรจากส่วนต่าง ๆ ของตลาดสกุลเงินดิจิทัล

Short และ long

เมื่อวาฬ Bitcoin คาเว่าราคาจะมีการลดลง พวกมันสามารถใช้กลยุทธ์ Short เพื่อขายสกุลเงินดิจิทัลจำนวนมหาศาล ทำให้นักลงทุนรายย่อยกลัวและผลักดันตลาดให้ตกต่ำลง

ในทางกลับกัน พวกเขาก็สามารถใช้กลยุทธ์ long โดยการซื้อ Bitcoin อย่างมีกลยุทธ์เมื่อเวลาผ่านไป ซึ่งจะสร้างโมเมนตัมเชิงบวกและกระตุ้นให้นักลงทุนรายย่อยเข้าร่วมตลาด ซึ่งส่งผลให้ราคาสูงขึ้น

วิธีสังเกตวาฬ Bitcoin

วาฬ มักชอบเคลื่อนย้ายเงินทุนอย่างลับ ๆ โดยใช้วิธีใหม่ ๆ เพื่อซ่อนตัวตนและจำนวนเงินที่พวกมันมีอยู่ อย่างไรก็ตาม ความโปร่งใสของบล็อกเชนและแพลตฟอร์มติดตามต่าง ๆ เช่น Whale Alert ก็ทำให้สามารถระบุตัววาฬเหล่านี้ได้ อย่างไรก็ตาม การระบุตัวตนนั้นจำเป็นต้องมีการสำรวจบล็อกเชนเชิงลึกและการติดตามอย่างระมัดระวัง ซึ่งเรียกว่าการวิเคราะห์แบบ on-chain

อ้างอิง : cointelegraph.com
ภาพ news.bitcoin.com