Bitcoin คาดว่าจะเป็นปีที่มีประสิทธิภาพเหนือกว่าสินทรัพย์แบบดั้งเดิมที่สำคัญทั้งหมด ตามที่ Kaiko Research คาดการณ์ โดยราคาเพิ่มขึ้นมากกว่า 160% ในปี 2023 แม้จะมีสภาวะเศรษฐกิจมหภาคที่ตึงตัวและอุปสรรคในอุตสาหกรรมสกุลเงินดิจิทัล
มีบริษัทเพียงไม่กี่แห่งเท่านั้นที่นำหน้าประสิทธิภาพของ Bitcoin รวมถึง NVIDIA Corp (NVDA) ซึ่งเพิ่มขึ้น 241% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งแซงหน้า Bitcoin ที่เพิ่มขึ้น 163%
การวิเคราะห์ของ Kaiko ได้แบ่งการเคลื่อนไหวของราคา BTC ตลอดทั้งปีออกเป็นสามช่วง โดย BTC มีการซื้อขายระหว่าง 25,000 ถึง 30,000 ดอลลาร์ระหว่างเดือนมีนาคมถึงตุลาคม และลดลงอย่างรวดเร็วและแตะระดับต่ำสุดในรอบหลายปีในช่วงกลางปี 2023 อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ BlackRock ยื่นขอเปิดตัวกองทุน Spot Bitcoin ETF เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน ราคาของสกุลเงินดิจิทัลก็พุ่งสูงกว่า 40,000 ดอลลาร์
“ดังนั้น แม้ว่าช่วงกลางปีจะค่อนข้างน่าเบื่อ แต่ BTC ก็มีหนึ่งใน Sharpe Ratios ที่ดีที่สุดของสินทรัพย์หลัก ๆ ในปีนี้ รองจาก Nvidia ยักษ์ใหญ่ด้านเซมิคอนดักเตอร์ซึ่งราคาหุ้นเพิ่มขึ้นกว่าสองเท่าตั้งแต่เดือนมกราคมถึงเดือนพฤษภาคมจากความตื่นเต้นของ AI”
SEC จะทำการตัดสินใจขั้นสุดท้ายในช่วงต้นเดือนมกราคมว่าจะอนุญาตให้มีการซื้อขาย Spot Bitcoin ETF หรือไม่ โดยมีบริษัทที่รอการอนุมัติ ได้แก่ ผู้เล่นรายใหญ่ใน Wall Street เช่น Fidelity, WisdomTree, ARK และ 21Shares และ VanEck และอื่น ๆ อีกมากมาย และคาดว่ามันจะช่วยเพิ่มราคา Bitcoin และสภาพคล่องได้อย่างมาก
การวิเคราะห์ของ Kaiko ยังชี้ให้เห็นถึงความสัมพันธ์ของ Bitcoin กับดัชนีตลาดหุ้น Nasdaq 100 โดย Bitcoin มักถูกมองว่าเป็นการป้องกันความเสี่ยงจากภาวะเงินเฟ้อ เมื่อเปรียบเทียบกับทองคำในรูปแบบดิจิทัล อย่างไรก็ตาม มูลค่าของมันได้รับอิทธิพลส่วนใหญ่จากปัจจัยทางเศรษฐกิจมหภาค , ประสิทธิภาพของเงินดอลลาร์สหรัฐ , และแนวโน้มของตลาดหุ้น
อ้างอิง : cointelegraph.com
ภาพ wired.co.uk