ศาสตราจารย์จากคณะนิติศาสตร์มหาวิทยาลัย Texas A&M เพิ่งเผยแพร่งานวิจัยเกี่ยวกับกรณีการใช้งานเทคโนโลยี บล็อคเชน ในโลกของการบริหารลิขสิทธิ์ ซึ่งจากการค้นพบของพวกเขา บล็อคเชน มีศักยภาพในการเปลี่ยนแปลงวิธีการจัดการทรัพย์สินทางปัญญาอย่างรุนแรงทั้ง “ในประเทศและต่างประเทศ”
Peter Yu ศาสตราจารย์ด้านกฎหมาย และผู้อำนวยการศูนย์กฎหมายและทรัพย์สินทางปัญญาของ Texas A&M University School of Law และผู้เขียนรายงานฉบับนี้เพียงคนเดียว ยืนยันว่าบล็อคเชนไม่สามารถแก้ไขเปลี่ยนแปลงได้ ทำให้เป็นตัวเลือกที่สำคัญสำหรับการบูรณาการเข้ากับระบบทรัพย์สินทางปัญญา
“ในบล็อกเชน เมื่อบันทึกธุรกรรมแล้ว แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะแก้ไขบันทึกนั้น หากธุรกรรมถูกบันทึกอย่างไม่ถูกต้อง ธุรกรรมใหม่จะต้องถูกแฮชเข้าไปในบล็อคเชนเพื่อทำการแก้ไข ซึ่งคุณสมบัตินี้ทำให้เทคโนโลยีบล็อคเชนมีความน่าสนใจอย่างมากสำหรับการจดทะเบียนลิขสิทธิ์ , การจัดเก็บบันทึกการเป็นเจ้าของและใบอนุญาต , หรือการทำงานอื่น ๆ ที่คล้ายคลึงกัน”
Yu ยังคงอธิบายต่อไปว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระบบลิขสิทธิ์ บล็อคเชนสามารถจัดเตรียมวิธีการที่ผู้คนสามารถระบุสถานะของบันทึกใด ๆ เช่น ลิขสิทธิ์ตกเป็นสาธารณสมบัติหรือไม่
ประโยชน์อื่นๆ ตามการวิจัย ได้แก่ การตรวจสอบย้อนกลับ , ความโปร่งใส , และการกำจัดตัวกลาง
ประโยชน์สุดท้ายที่กล่าวถึงในรายงานของ Yu คือเรื่อง Disintermediation ที่เกี่ยวข้องกับความสามารถของบล็อกเชนในการดำเนินการอย่างเป็นอิสระจากหน่วยงานกำกับดูแล
“ด้วยการไม่ต้องพึ่งพาตัวกลางที่เชื่อถือได้ เช่น รัฐบาล ธนาคาร เทคโนโลยีนี้สนับสนุนความร่วมมือระดับโลก แม้ว่าจะไม่มีส่วนร่วมหรือการสนับสนุนจากรัฐบาลหรือหน่วยงานระหว่างรัฐบาลก็ตาม”
Yu คาดการณ์ว่าผลประโยชน์เหล่านี้อาจนำไปสู่ระบบลิขสิทธิ์ที่นำโดยศิลปิน/ธุรกิจ ซึ่งทรัพย์สินทางปัญญาอาจได้รับการจดทะเบียนและเป็นสื่อกลางโดยเป็นอิสระจากรัฐ
อ้างอิง : cointelegraph.com
ภาพ www.binance.com
