อัยการสหรัฐฯอ้างว่า Sam “SBF” Bankman-Fried “ใช้เงินทุนของลูกค้าเพิ่มขึ้นสองเท่า” เมื่อเขาซื้อหุ้น Binance มูลค่า 2 พันล้านดอลลาร์ ในปี 2021 ตามที่ทนายความของรัฐบาลสหรัฐอเมริการะบุ โดย Bankman-Fried จ่ายเงินสำหรับการซื้อด้วยเงินทุนจากลูกค้า FTX
ฝ่ายโจทก์กำลังมีการยื่นปิดคดีในวันที่ 1 พฤศจิกายน ที่ศาลแขวงทางใต้ของนิวยอร์ก ซึ่งการพิจารณาคดีของ Bankman-Fried เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 3 ตุลาคม
ในปี 2019 Binance ลงทุนใน FTX ผ่านความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ และสองปีต่อมาในปี 2021 Bankman-Fried ก็พยายามซื้อหุ้นของ FTX คืน โดยจ่ายเงินให้คู่แข่ง 2.1 พันล้านดอลลาร์ในรูปของ BUSD ของ Binance และ FTX Token (FTT)
นอกจากนี้ อัยการยังพบการชำระเงินและการซื้ออื่น ๆ ที่ถูกกล่าวหาว่ากระทำโดย FTX ด้วยเงินทุนของลูกค้า รวมถึงการบริจาคทางการเมืองหลายล้านดอลลาร์ , อสังหาริมทรัพย์ที่หรูหราในบาฮามาส , และการลงทุนร่วมลงทุน
K5 Global ได้รับเงินลงทุน 700 ล้านดอลลาร์จาก FTX ในปี 2022 ซึ่ง Alameda Research ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ FTX ก็ลงทุน 300 ล้านดอลลาร์ใน K5 Global เช่นกัน ตามที่อัยการระบุ โดยเงินฝากของลูกค้าของ FTX คือแหล่งที่มาของเงินทุน
คำแก้ต่างของ Bankman-Fried แย้งว่า เงินทุนของ FTX ซึ่งมีรายได้เพิ่มขึ้นจาก 89 ล้านดอลลาร์ในปี 2020 เป็น 1.02 พันล้านดอลลาร์ในปี 2021 ถูกนำมาใช้เพื่อการลงทุนร่วมทุน , การสนับสนุนทางการเมือง , และการซื้ออสังหาริมทรัพย์ ตามที่ทีมทนายของเขาระบุ โดยช่องว่าง 8 พันล้านดอลลาร์ระหว่าง FTX และ Alameda Research เกิดจากการขาดการบริหารความเสี่ยงและข้อผิดพลาดในการซื้อขายของ Alameda
Bankman-Fried ถูกตั้งข้อหาฉ้อโกงและสมรู้ร่วมคิด 7 กระทง และอาจถูกจำคุกสูงสุด 115 ปีหากพบว่ามีความผิดจริง โดยฝ่ายจำเลยคาดว่าจะเริ่มเข้าสู่การสรุปเพื่อปิดคดีในวันที่ 1 พ.ย. ก่อนที่คณะลูกขุนจะตัดสินขั้นสุดท้าย
อ้างอิง : cointelegraph.com
ภาพ finance.yahoo.com