Haru Invest แพลตฟอร์มสกุลเงินดิจิทัลที่มีปัญหา วางแผนที่จะระงับเซิร์ฟเวอร์ภายในไม่กี่เดือนข้างหน้า หลังจากหยุดการถอนเงินในเดือนมิถุนายน 2023
Haru Invest กำลังคิดที่จะปิดเซิร์ฟเวอร์เพื่อลดต้นทุนการบำรุงรักษาเซิร์ฟเวอร์ในการให้บริการ ตามที่ CEO ของบริษัท Hugo Lee ประกาศเมื่อวันที่ 16 ตุลาคม โดย CEO เน้นย้ำว่า ต้นทุนการบำรุงรักษาเซิร์ฟเวอร์คิดเป็น “เปอร์เซ็นต์ที่ใหญ่ที่สุดของต้นทุนคงที่” ของ Haru Invest และถือเป็นลำดับความสำคัญของบริษัท
“เราวางแผนที่จะระงับการให้บริการในอีกไม่กี่สัปดาห์ โดยจะมีการสำรองข้อมูลสมาชิกทั้งหมด” Lee กล่าวในประกาศ โดยเสริมว่าบริษัท “ยังไม่มีแผนที่ชัดเจน” สำหรับการระงับเซิร์ฟเวอร์ดังกล่าว
ความเคลื่อนไหวของบริษัทในการปิดเซิร์ฟเวอร์เกิดขึ้นเมื่อ Haru Invest กล่าวว่า “กำลังวางแผนกลยุทธ์ต่าง ๆ” เพื่อลดต้นทุนทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงาน โดย CEO กล่าวว่า “ค่าใช้จ่ายคงที่ในปัจจุบันบางส่วน ได้แก่ ค่าบำรุงรักษาบริการของ Haru Invest , ต้นทุนพื้นที่ทำงาน เช่น สำนักงาน , และค่าใช้จ่ายในการสื่อสารกับสมาชิกของเรา” Lee กล่าวเสริม
CEO อ้างว่า Haru Invest ตั้งใจที่จะลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานลงอีก เพื่อรักษาทรัพย์สินของบริษัทให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ นอกจากนี้เขายังสัญญาว่าสินทรัพย์เหล่านี้จะถูกเพิ่มเข้าไปในสินทรัพย์เพื่อแจกจ่ายให้กับผู้ใช้ที่มีเงินติดค้างอยู่บนแพลตฟอร์มตั้งแต่เดือนมิถุนายน
ข่าวการปิดเซิร์ฟเวอร์ดังกล่าวได้กระตุ้นให้เกิดความไม่พอใจในชุมชน Haru Invest โดยมีผู้ใช้จำนวนมากแย้งว่า การบำรุงรักษาเซิร์ฟเวอร์อาจไม่ได้ทำให้บริษัทต้องเสียเงินมากขนาดนั้น
“เซิร์ฟเวอร์ไม่ได้มีค่าใช้จ่ายมากขนาดนั้น” ผู้ใช้คนหนึ่งที่ไม่พอใจเขียนในช่อง Telegram ของ Haru Invest ซึ่งมีสมาชิกทั้งหมดประมาณ 3,100 คน
“เซิร์ฟเวอร์กำลังจะปิดเร็ว ๆ นี้ ด้วยค่าใช้จ่ายมหาศาล 200 USD ต่อเดือน” ผู้วิจารณ์บน Telegram อีกคนกล่าว ประชด ซึ่งตามแหล่งข้อมูลออนไลน์พบว่า ค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาเซิร์ฟเวอร์สำหรับธุรกิจขนาดเล็กถึงขนาดกลางอยู่ระหว่าง 35 ถึง 500 ดอลล่าร์ต่อเดือนเท่านั้น
อ้างอิง : cointelegraph
ภาพ binance.com