Gary Wang ผู้ร่วมก่อตั้งและอดีตประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีของ FTX ปรากฏตัวในศาลอีกครั้งในวันที่ 4 ของการพิจารณาคดีอาญาของอดีต CEO Sam “SBF” Bankman-Fried เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับความเชื่อมโยงระหว่าง FTX และ Alameda Research
ตามรายงานจาก Inner City Press ระบุว่า Wang กลับมาที่ห้องพิจารณาคดีในนิวยอร์กเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม และเป็นพยานว่า บัญชีของ Alameda บน FTX เป็นเพียงบัญชีเดียวที่ได้รับอนุญาตให้ซื้อขายมากกว่าเงินที่มีอยู่ ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่เรียกว่า “allow negative” โดยอดีตประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีอ้างว่า Bankman-Fried เป็นคนสั่งให้ Wang และอดีตผู้อำนวยการฝ่ายวิศวกรรม FTX อย่าง Nishad Singh ใช้ฟีเจอร์นี้ในปี 2019
Wang กล่าวว่าการเพิ่ม “allow negative” ในโค้ดของ FTX ช่วยให้ Alameda มียอดเงินคงเหลือติดลบ ซึ่งมากกว่ารายได้ของ FTX ในปี 2020 ซึ่งอยู่ที่ 200 ล้านดอลลาร์เทียบกับ 150 ล้านดอลลาร์ โดย Wang ให้การเป็นพยานว่า Bankman-Fried ได้ให้วงเงินสินเชื่อแก่ Alameda มูลค่า 65 พันล้านดอลลาร์ แม้ว่าจะแถลงในทางตรงกันข้ามต่อสาธารณชนเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองบริษัทก็ตาม
“เราเคยบอกว่าเราจะไม่ใช้เงินทุนแบบนี้” Wang กล่าวตามรายงาน “หลังจากที่ผมบอกว่ายอดคงเหลือของ Alameda ลดลงนับพันล้าน [SBF] ก็ขอพบผมที่สำนักงานในบาฮามาส และถามผมเกี่ยวกับข้อผิดพลาด จากนั้นเขาก็บอก Caroline [Ellison] ว่า Alameda สามารถดำเนินการคืนเงินที่ยืมมาได้”
ตามที่ Wang กล่าวนั้น Bankman-Fried อ้างว่า “สิทธิพิเศษ” ของ Alameda บน FTX นั้นมีศูนย์กลางอยู่ที่ FTX Token (FTT) ของเว็บเทรด ซึ่งบริษัทใช้สำหรับการซื้อขาย “เมื่อยอดคงเหลือในบัญชีต่ำกว่าศูนย์” โดยอดีตประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีให้การว่า Alameda สามารถถอนเงินจาก FTX ได้โดยตรง
หัวใจสำคัญของคดีฟ้องร้องต่อ Bankman-Fried คือข้อกล่าวหาว่า อดีต CEO เป็นผู้รับผิดชอบในการใช้เงินทุนลูกค้าของ FTX ที่ Alameda โดยไม่ได้รับความยินยอมจากลูกค้า ซึ่งในระหว่างการให้การของเขาเมื่อวันที่ 5 ต.ค. Wang ยอมรับว่าได้ก่ออาชญากรรมกับ Bankman-Fried และอดีต CEO ของ Alameda Caroline Ellison โดยได้รับสารภาพในข้อหาฉ้อโกงในเดือนธันวาคม 2022
การพิจารณาคดีอาญาของ Bankman-Fried คาดว่าจะดำเนินต่อไปจนถึงเดือนพฤศจิกายน เนื่องจากคาดว่า Ellison และ Singh น่าจะมาเป็นพยานในการกล่าวหาอดีต CEO เช่นกัน
อ้างอิง : cointelegraph
ภาพ thetimes
