ค่าลิขสิทธิ์ที่ได้รับจากโครงการ nonfungible token (NFT) ถึงจุดต่ำสุดในรอบ 2 ปี ตามรายงานจาก Nansen บริษัทวิเคราะห์บล็อกเชน
จุดต่ำสุดของค่าลิขสิทธิ์ NFT เกิดจากผลกระทบจากการลดลงของราคา Floor ของ Bored Ape Yacht Club (BAYC) NFT เมื่อเร็ว ๆ นี้ เช่นเดียวกับข้อขัดแย้งในการเปิดตัวคอลเลคชัน Azuki Elementals
ย้อนไปในเดือนเมษายน 2022 ค่าลิขสิทธิ์ NFT นั้นพุ่งสูงสุด โดยผู้สร้างได้รับเงินประมาณ 75.7 ล้านดอลลาร์ในสัปดาห์เดียว จากข้อมูลของ Nansen ผู้สร้าง BAYC Yuga Labs ได้รับค่าลิขสิทธิ์รวม 165.5 ล้านดอลลาร์จากผลงานคอลเลกชัน NFT
RTFKT ได้รับค่าลิขสิทธิ์รวม 79.9 ล้านดอลลาร์จากคอลเลกชันต่าง ๆ ซึ่งรวมถึง CloneX ส่วน Azuki ทำเงินได้ 58.2 ล้านดอลลาร์จากคอลเลกชัน zuki, Beanz, Elemental Beansa และ Elementals
Proof ซึ่งเป็นสตูดิโอที่อยู่เบื้องหลัง Moonbirds ทำรายได้ไป 35 ล้านดอลลาร์ ในขณะที่ Doodles ทำเงินได้ 27.4 ล้านดอลลาร์จากคอลเลกชัน Doodles, Space Doodles, Genesis Box และ Dooplicato ส่วนรายได้ของ Pudgy Penguins อยู่ที่ 8.3 ล้านดอลลาร์จาก Pudgy Penguins, Lil Pudgys และ Pudgy Rods
Nansen เน้นย้ำถึงความสำคัญของค่าลิขสิทธิ์ NFT ในฐานะตัวบ่งชี้รากฐานทางการเงินของสตูดิโอสำหรับการพัฒนา เนื่องจากมีบทบาทในการสร้างรายได้
ตลาด NFT OpenSea เคยมีหน้าที่ในการแจกจ่ายค่าลิขสิทธิ์ให้กับโปรเจ็กต์ NFT จนถึงปี 2023 โดยรายงานระบุว่าแนวโน้มนี้เปลี่ยนไปเมื่อตลาดคู่แข่งอย่าง Blur ใช้นโยบายที่กำหนดค่าลิขสิทธิ์ขั้นต่ำ 0.5% เว้นแต่โปรเจกต์จะเลือกไม่ใช้หรือบังคับใช้เต็มเปอร์เซ็นต์
“ปัจจุบัน OpenSea และ Blur อยู่ในระดับที่ทัดเทียมกันเมื่อพูดถึงค่าลิขสิทธิ์ที่จ่าย โดยค่าลิขสิทธิ์ที่จ่ายบน Blur จะมากกว่าเมื่อปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้น”
ข้อมูลของ Nansen ยังเผยให้เห็นว่า คอลเลกชัน NFT 10 อันดับแรกได้รับค่าลิขสิทธิ์มากกว่า 345 ล้านดอลลาร์ โดยค่าลิขสิทธิ์ 150 ล้านดอลลาร์ของ Yuga Labs คิดเป็น 44% ของ 10 อันดับแรก ที่น่าสนใจคือมีโครงการ NFT เพียง 20 โครงการเท่านั้นที่ได้รับค่าลิขสิทธิ์มากกว่า 10 ล้านดอลลาร์จนถึงปัจจุบัน