Hermès (แอร์เมส) แบรนด์แฟชั่นสุดหรูของฝรั่งเศสได้รับชัยชนะอีกครั้งในคดีละเมิดลิขสิทธิ์ต่อศิลปิน Mason Rothschild หลังจากผู้พิพากษาของสหรัฐอเมริกามีคำสั่งห้ามขายโทเค็น (NFT) “MetaBirkin” ทั้งหมดเป็นการถาวร
Hermès ยื่นคำร้องต่อศาลแขวงสหรัฐในเขตทางตอนใต้ของนิวยอร์กในเดือนมีนาคม เพื่อระงับการขาย MetaBirkin NFT ทั้งหมด
เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน Jed Rakoff ผู้พิพากษาสหรัฐในแมนฮัตตันได้อนุมัติคำขออย่างเป็นทางการ โดยตั้งคำถามถึงการทำการตลาดอย่างต่อเนื่องของ Rothchild ในโครงการ
“แผนการทั้งหมดของจำเลยในที่นี้เป็นการฉ้อโกงผู้บริโภคให้หลงเชื่อ โดยการใช้รูปแบบต่าง ๆ ในเครื่องหมายการค้าของ Hermes ซึ่งอาจบ่งบอกว่า Hermes กำลังสนับสนุน MetaBirkins NFT ของเขา” Rakoff กล่าว
คอลเลกชัน MetaBirkin ประกอบด้วยงานศิลปะ NFT 100 ชิ้นที่แสดงกระเป๋าถือสไตล์ Birkin ขนยาว โดยมีรายงานว่า Rothschild สร้างยอดขายมูลค่ากว่า 1 ล้านดอลลาร์จากโครงการ
ข้อพิพาททางกฎหมายเริ่มขึ้นในเดือนมกราคม หลังจาก Hermès กล่าวหาคอลเลกชั่น NFT ของ Rothschild ว่าใช้เครื่องหมายการค้า Birkin อย่างไม่เหมาะสม และทำให้ลูกค้าเชื่อว่า Hermès สนับสนุนโครงการนี้
ในเดือนกุมภาพันธ์ ศาลตัดสินว่า Rothschild ละเมิดเครื่องหมายการค้าของ Hermès โดยศิลปินได้รับคำสั่งให้ชดใช้ค่าเสียหาย 133,000 ดอลลาร์
Rothschild ได้โต้แย้งว่าโปรเจ็กต์ของเขาเป็นการแสดงออกทางศิลปะที่ได้รับการคุ้มครองโดยการแก้ไขครั้งแรก ในลักษณะเดียวกันกับที่ทำให้ Andy Warhol สามารถสร้างและขายงานศิลปะที่มีกระป๋องซุปของ Campbell ได้อย่างถูกกฎหมาย
นอกจากนี้ ศิลปินยังยืนยันว่าเขาไม่ได้หลอกลวงผู้บริโภคอย่างชัดเจน เนื่องจากเขาได้แสดงข้อความที่อธิบายว่า Hermès ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใด ๆ
อย่างไรก็ตาม ผู้พิพากษาและคณะลูกขุนก็ปฏิเสธเรื่องนี้เช่นกัน เนื่องจาก “คณะลูกขุนเห็นว่าการตัดสินใจของเขาที่จะใช้เครื่องหมายการค้าของ Hermès ในชื่อและการออกแบบของ MetaBirkins NFT — ไม่ใช่แค่เทคนิคทางการตลาดและการขายของ — แต่เป็นการหลอกลวงอย่างชัดเจนและปฏิเสธคำแก้ตัวในการปฏิเสธความรับผิดชอบของเขา”
