Binance US ได้ขอให้ศาลปฏิเสธคำสั่งควบคุมเงินทุนชั่วคราวที่เสนอโดยหน่วยงานกำกับดูแลหลักทรัพย์ต่อสินทรัพย์ก่อนการพิจารณาคดีในวันที่ 13 มิถุนายน โดยอ้างว่าการเคลื่อนไหวดังกล่าวจะ “กระทบกับการดำเนินธุรกิจ” จนไม่อาจดำเนินการต่อไปได้
ในการยื่นฟ้อง เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน Binance US ประณามการเคลื่อนไหวฉุกเฉินของ ก.ล.ต.สหรัฐฯ สำหรับคำสั่งควบคุมชั่วคราวเกี่ยวกับธุรกิจ โดยเรียกมันว่า “เข้มงวดและเกินควร”
ซึ่งการพิจารณาคำสั่งระงับชั่วคราวมีกำหนดในวันที่ 13 มิถุนายนในศาลแขวงสหรัฐประจำเขตโคลัมเบีย
Binance US แย้งว่าคำสั่งระงับจะทำให้ BAM Trading Services Inc. ซึ่งเป็นนิติบุคคลที่ให้บริการซื้อขายและแลกเปลี่ยน crypto สำหรับ Binance.US ต้ตองเลิกกิจการ โดยระบุว่า:
“สิ่งที่ ก.ล.ต.สหรัฐฯ ร้องขอจะส่งผลเสียต่อลูกค้าของ BAM เป็นหลัก และทำให้ BAM ต้องเลิกกิจการ และขัดขวางไม่ให้ BAM ป้องกันตัวเองในการดำเนินคดีนี้”
นอกจากนี้ Binance.US กล่าวว่าได้ “ใช้ความพยายามอย่างมาก” ในการให้ความร่วมมือกับการสอบสวนของก.ล.ต.สหรัฐฯ ที่กำลังดำเนินอยู่ซึ่งเริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2020 ตามการยื่นฟ้อง โดยผลการสอบสวนนี้ทำให้มีการสื่อสารส่วนบุคคลมากกว่า 700,000 รายการและ “ข้อมูลตามความต้องการ” ในการดำเนินงานประจำวัน
ก.ล.ต.สหรัฐฯ เริ่มดำเนินการทางกฎหมายครั้งใหญ่กับ Binance และบริษัทในเครือเมื่อวันที่ 5 มิถุนายน โดยกล่าวหาว่าบริษัทล้มเหลวในการจดทะเบียนเป็นตลาดหลักทรัพย์ และอนุญาตให้ลูกค้าในสหรัฐฯ ซื้อขาย cryptocurrencies ที่อ้างว่าเป็นหลักทรัพย์
นอกจากนี้ หน่วยงานกำกับดูแลยังกล่าวหาว่า Changpeng Zhao (CZ) CEO ของ Binance สามารถเข้าถึงเงินลูกค้าของ Binance.US ได้ และเขาย้ายเงินทุนของ Binance มูลค่า 12 พันล้านดอลลาร์ผ่านหน่วยงานที่ควบคุมโดยเอกชนที่ชื่อว่า Merit Peak
ในวันถัดไปในวันที่ 6 มิถุนายน ก.ล.ต.สหรัฐฯ ได้ยื่นคำร้องฉุกเฉินเพื่อขอคำสั่งระงับสินทรัพย์ชั่วคราวต่อ Binance โดยขอให้ระงับสินทรัพย์ที่ถือครองใน Binance US จนกว่าเว็บเทรดจะพิสูจน์ได้ว่า CZ หรือผู้บริหารคนอื่น ๆ ที่ Binance ไม่สามารถเคลื่อนย้ายเงินได้