กระทรวงยุติธรรมของสหรัฐอเมริกา (DOJ) ได้ยื่นคัดค้านคำร้องโดย Bittrex แพลตฟอร์มการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลที่ล้มละลาย เพื่อให้ลูกค้าสามารถถอนเงินดิจิทัลและเงิน Fiat ของตนได้ ซึ่งสำนักงานควบคุมสินทรัพย์ต่างประเทศของกระทรวงการคลังสหรัฐ (OFAC) เป็นเจ้าหนี้รายใหญ่ที่สุดของ Bittrex แต่การ claim จะอยู่ภายใต้ข้อเสนอของ Bittrex
Bittrex ถูกฟ้องในเดือนตุลาคมโดยทั้ง OFAC และเครือข่ายการบังคับใช้อาชญากรรมทางการเงินของ Treasury (FinCEN) ด้วยการละเมิดการคว่ำบาตรที่อนุญาตให้บุคคลในไครเมีย คิวบา อิหร่าน ซูดาน และซีเรียทำธุรกรรมระหว่างปี 2014 ถึง 2017 โดย OFAC และ FinCEN ประเมินบทลงโทษที่ 24 ล้านและ 29 ล้านดอลล่าร์ตามลำดับ
โฆษกของ Bittrex บอกว่า “ยินดี” ที่จะจ่ายค่าปรับ 24 ล้านดอลลาร์แก่ FinCEN โดยได้รับเครดิต 5 ล้านดอลลาร์จากหน่วยงาน ในขณะที่ OFAC ให้เครดิต Bittrex 24 ล้านดอลลาร์ ซึ่งยังคงเป็นหนี้ที่ใหญ่ที่สุดของ Bittrex
แต่ปัญหาของแพลตฟอร์ม crypto ไม่ได้หยุดอยู่แค่นั้น เนื่องจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐได้ฟ้อง Bittrex สำหรับการดำเนินการด้านหลักทรัพย์ที่ไม่ได้จดทะเบียนในเดือนเมษายน และการกระทำนั้นอาจส่งผลให้เกิดการลงโทษทางการเงิน โดยในเดือนพฤษภาคม Bittrex ได้ประกาศล้มละลายในศาลล้มละลายสหรัฐประจำเขตเดลาแวร์ ภายในไม่กี่วันหลังจากยื่นล้มละลาย Bittrex ก็ได้เสนอแผนการที่จะเปิดให้ลูกค้าถอนเงิน
Interesting. Number One creditor for #Bittrex is OFAC (Office of Foreign Assets Control) responsible for AML (Anti Money Laundering) admin & enforcer of economic & trade sanctions based on US foreign policy & national security goals. Now we know why they went into Chapter 11. pic.twitter.com/sAg96t3jv3
— Simon Dixon (@SimonDixonTwitt) May 9, 2023
DOJ โต้แย้งในการยื่นฟ้องเมื่อวันที่ 7 มิถุนายนว่า ข้อเสนอของ Bittrex ใช้มาตรฐานที่ไม่ถูกต้องซึ่งจะอนุญาตให้จ่ายเจ้าหนี้บางรายก่อนรายอื่น
DOJ ยังคัดค้านว่าการเคลื่อนไหวของ Bittrex นั้นเกิดขึ้นก่อนกำหนด เนื่องจากการล้มละลายของ Bittrex ยังไม่ได้รับการยืนยันจากศาล และการพิจารณาคดีล้มละลายจะมีขึ้นในวันที่ 14 มิถุนายน